สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
กำหนดจัดงานวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 54 ปี ในวันที่ 20มิถุนายน 2565
ณ สันนิบาตสหกรณ์ฯ ถนนพิชัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ พร้อม
เสวนาร่วมพูดคุยประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานสหกรณ์
ช่องทางที่ก่อให้เกิดการทุจริต และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการป้องกันการทุจริตในสหกรณ์
ภายใต้ชื่อ “ ถามตรงๆ กับจอมขวัญสหกรณ์เขาทุจริตกันอย่างไร?
แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา ” ผู้เสวนาประกอบด้วย
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
สหกรณ์ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์ฯ
นายไพบูลย์ แก้วเพทาย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสหกรณ์ นายสิรวิชญ์ ไพศาสตร์
ที่ปรึกษาสันนิบาตสหกรณ์ฯ โดยมี นางสาวจอมขวัญ หลาวเพ็ชร ร่วมเป็นผู้ดำเนินรายการ
นอกเหนือจากการเสวนา ภายในงานได้นำนิทรรศการ “ วันคล้ายวันสถาปนาสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
” มาจัดตั้งเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ร่วมงาน
รวมถึงจัดจำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาล เช่นทุเรียน เงาะ มังคุด ส้มโอ
รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง อาหารแปรรูปต่างๆ
นับเนื่องเป็นเวลา 54 ปีที่สันนิบาตสหกรณ์สหกรณ์ฯ ได้ก่อตั้งขึ้น
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 ซึ่งได้มีการจัดตั้งสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
จำกัดสินใช้ ขึ้น เป็นสหกรณ์ประเภทชุมนุมสหกรณ์เป็นองค์การสูงสุดของขบวนการสหกรณ์
(APEX) ในชื่อว่าสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัดสินใช้
จดทะเบียนตามพ.ร.บ.สหกรณ์พ.ศ. 2471 เมื่อวันที่26 กุมภาพันธ์ 2511
นับเป็นองค์การสูงสุดของขบวนการสหกรณ์ไทยในการเชื่อมโยงสหกรณ์ทุกประเภทเข้าด้วยกัน
ต่อมาในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2511
มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 เนื่องจาก
กิจการของสหกรณ์ ได้ขยายตัวขึ้น
จึงจำเป็นต้องปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ขึ้นใหม่ให้เหมาะสมในการส่งเสริมขบวนการสหกรณ์
จึงเปลี่ยนจากสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัดสินใช้ มาเป็น
สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (ตามส่วนที่ 6
ของพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 มาตรา 104) ให้มีสถาบันขึ้นสถาบันหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า
"สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย” เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2511 ประกอบด้วย สมาชิกซึ่งเป็นสหกรณ์
มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเจริญก้าวหน้า
แก่กิจการสหกรณ์ทุกประเภททั่วราชอาณาจักรอันมิใช่เป็นการหาผลกำไรหรือรายได้แบ่งปันกันและมีบทบาทหน้าที่
(1) ส่งเสริมและเผยแพร่กิจการสหกรณ์
ตลอดจนทำการวินิจฉัยและรวบรวมสถิติเกี่ยวกับกิจการสหกรณ์ (2) แนะนำช่วยเหลือทางวิชาการแก่สหกรณ์
และอำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงานระหว่าง สหกรณ์กับส่วนราชการหรือบุคคล (3)
ให้การศึกษาฝึกอบรมวิชาการเกี่ยวกับกิจการของสหกรณ์ (4) ส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างสหกรณ์ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
หรือสันนิบาตสหกรณ์ของต่างประเทศ หรือองค์การต่างประเทศ
หรือองค์การระหว่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์ทำนองเดียวกัน (5) ซื้อ จัดหา จำหน่าย ถือกรรมสิทธิ์ ครอบครอง
หรือทำนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินใด ๆ (6) ส่งเสริมธุรกิจการค้า
อุตสาหกรรม หรือบริการของสหกรณ์ (7) สนับสนุนและช่วยเหลือสหกรณ์เพื่อแก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้องที่เกี่ยวกับกิจการของสหกรณ์ซึ่งเป็น
การกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ( เป็นตัวแทนของสหกรณ์
เพื่อรักษาผลประโยชน์อันพึงมีพึงได้จากการสนับสนุนของรัฐ องค์การระหว่างประเทศ
หรือภาคเอกชนอื่น (9) ร่วมมือกับรัฐบาลในการส่งเสริมสหกรณ์
เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ บรรดาสหกรณ์อย่างแท้จริง และ (10) ดำเนินการอื่นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
หรือตามที่คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์ แห่งชาติมอบหมาย
ปัจจุบันสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ดำเนินการภายใต้การบริหารงานของคณะกรรมการชุดที่ 25 ซึ่งมีนายประเมศวร์ อินทรชุมนุม ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการดำเนินการ
สันนิบาตสหกรณ์ แห่งประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
จะไม่ทิ้งสหกรณ์ใดสหกรณ์หนึ่งไว้ข้างหลัง” ขับเคลื่อนด้วยนโยบาย
6 ด้านนำไปสู่เป้าหมาย
1. ปฏิรูปสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
: เน้นการพัฒนาระบบบริหารจัดการปฏิรูประบบบริหารจัดการงบประมาณสันนิบาตสหกรณ์ฯให้มีประสิทธิภาพภายใต้ระบบธรรมาภิบาลพร้อมจัดตั้งกองทุนกลางและพัฒนาสู่การเป็นธนาคาร
(Coop Bank) ปฏิรูปและยกระดับระบบการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสหกรณ์
โดยมีการจัดตั้ง วิทยาลัยสหกรณ์เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาคน พัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมของขบวนการสหกรณ์
ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาจัดหลักสูตรฝึกอบรม ฟรี ที่เอื้อต่อการ
พัฒนานักสหกรณ์มืออาชีพ ปฏิรูปและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (DATA CENTER
) ด้วยระบบฐานข้อมูลที่ทันสมัยในยุคสหกรณ์ 4.0
รวมทั้งการปฏิรูประบบการเลือกตั้งของสันนิบาตสหกรณ์ฯเพื่อให้ได้ “ คนเก่ง คนดี และมีคุณธรรม ” เข้าสู่ระบบอย่างมืออาชีพ
2. กระจายอำนาจบริหาร :
โดยการจัดตั้งสันนิบาตสหกรณ์จังหวัดหรือเครือข่ายสหกรณ์ระดับจังหวัดตามบริบทของพื้นที่การกระจายอำนาจซึ่งเครือข่ายสหกรณ์จะมีอำนาจในการบริหารจัดการแทนสันนิบาตสหกรณ์ฯ
กระจายการจัดการฝึกอบรมตามภูมิภาคเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและสร้างความใกล้ชิดระหว่างพี่น้องสหกรณ์ด้วยกัน
3. จัดสรรงบประมาณที่เป็นธรรม
: โดยการจัดสรรงบประมาณร้อยละ 15-30 ให้แก่เครือข่ายสหกรณ์อย่างเป็นธรรมเพื่อใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
ทำบัญชีรายจ่ายตามความเป็นจริงและสะสมเงินที่เหลือเป็นกองทุนต่างๆเพื่อพัฒนาสันนิบาตสหกรณ์ฯและขบวนการสหกรณ์สู่ความเข้มแข็งและมั่นคง
4. แก้ไขกฎหมายสหกรณ์ :
โดยการพัฒนาระบบสหกรณ์ ข้อบังคับ ระเบียบปฏิบัติ เป็นผู้นำขบวนการสหกรณ์ในการแก้ไขกฎหมาย
ปรับปรุงเพิ่มเติมข้อบังคับฯ ประกาศนายทะเบียนที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมและเอื้อต่อการพัฒนาสหกรณ์พร้อมจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่สหกรณ์ทุกประเภท
5. เอื้ออาทรกลุ่มรากหญ้า
: เน้นการพัฒนาสู่สากลด้วยระบบการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการของสหกรณ์ให้สามารถเชื่อมโยงทั้งด้านการเงิน
ทุน การผลิต การแปรรูป การตลาดและการกระจายสินค้า สร้างตราสินค้า Brand
Co-op ที่จะส่งเสริมการสร้างโอกาสทางการค้าระหว่างสหกรณ์โดยใช้ Brand
ตามที่องค์การสัมพันธภาพสหกรณ์สากลหรือ ICA ได้ประกาศรณรงค์ให้สมาชิกองค์กรสหกรณ์ทั่วโลกใช้เครื่องหมายการค้า
Coop กระจายสู่ตลาดอย่างครบวงจรให้ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ
6. พัฒนาเครือข่ายสัตตะสหกรณ์:
สร้างความเข้มแข็งของขบวนการสหกรณ์ทั้ง 7 ประเภท ขยายเครือข่ายสหกรณ์ระดับชาติในรูปแบบ
“ สภาสหกรณ์แห่งชาติ” ผลักดันการจัดตั้งชุมนุมสหกรณ์
เช่น ชุมนุมสหกรณ์บริการเดินรถแห่งประเทศไทย จำกัด ชุมนุมสหกรณ์การยางฯ จำกัด
ชุมนุมสหกรณ์ผู้ใช้น้ำฯ จำกัด หรือการจัดตั้งเป็นประเภทสหกรณ์เอนกประสงค์
สร้างสหกรณ์เครือข่ายระดับจังหวัดให้มั่นคงในรูปแบบ “ ชุมนุมสหกรณ์จังหวัด
ภายใต้หลักการและแนวคิด “ สหกรณ์ก้าวไกล ด้วยน้ำพระทัยในหลวง
” ส่งเสริมความร่วมมือกับชุมนุมสหกรณ์ทุกประเภทให้มีความเชื่อมโยงทั้งในและต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น