วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565

กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ !! กับงานเชิดชูหัตถศิลป์และผ้าไทย ในงาน“ศิลปาชีพ ปี 65” พช. จัดเต็ม 12 - 20 ส.ค. นี้ ที่ อิมแพค เมืองทองธานี

 

    กระทรวงมหาดไทย โดย กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) แถลงข่าวเตรียมพร้อม จัดงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ปี 2565 โดยเปิดโอกาสให้แฟนพันธุ์แท้ OTOP กลับมาช้อปเต็มรูปแบบอีกครั้ง บนพื้นที่กว่า 60,000 ตรม. ภายใต้มาตรการคุมเข้มด้านสาธารณสุข ป้องกันโรคโควิด-19  ตระการตากับผ้าไทยใส่ให้สนุก ชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์อันทรงคุณค่าจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ และสุดยอดสินค้า OTOP ทั่วไทย พร้อมอร่อยล้ำกับ OTOP ชวนชิม นัดช้อปพร้อมกัน 12 – 20 สิงหาคม นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี



    นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ปี 2565 ภายใต้แนวคิด “ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพปวงประชาอย่างยั่งยืน” ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 โซน outdoor เซ็นทรัล เฟสติวัล อิสต์วิลล์ พร้อมแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก 



    นายสมคิด จันทมฤก  กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาค เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และการมีงานทำให้กับประชาชน โดยการจัดงานครั้งนี้ คาดว่าจะมียอดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งสามารถช่วยกระจายรายได้ให้กับเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศมากยิ่งขึ้น   


    นอกจากนี้ ภายในงาน ยังได้ร่วมเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายและสิ่งทอ ต่อยอดการพัฒนาลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการประกาศศักดาและเชิดชูคุณค่าของผ้าไทย อันเป็นหนึ่งในงานหัตถศิลป์ล้ำค่าของช่างฝีมือไทย ผู้สืบทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นมรดกทางศิลปะไทยอันงดงาม ให้ได้เผยแพร่ออกสู่สายตาชาวโลก และสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน พร้อมสร้างความภาคภูมิใจให้กับช่างฝีมือและดีไซเนอร์ไทย ขณะเดียวกัน ยังเป็นการขับเคลื่อนพัฒนาต่อยอดด้านช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ OTOP เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งอย่างสมดุลและยั่งยืนด้วยนวัตกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น และตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน





    นายสมคิด จันทมฤก กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการกลับมาจัดงานแบบเต็มรูปแบบ บนพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร อีกครั้ง หลังจากว่างเว้นไป เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  โดยครั้งนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานกว่า 2,000 ราย ซึ่งทุกคนที่เข้าร่วมงาน จะต้องปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ภายในงานครอบคลุมกิจกรรมหลัก ดังนี้     1. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น อันเป็นที่มาของศิลปาชีพ 2.การจัดแสดงส่วนที่เป็นไฮไลท์  ได้แก่ โซนศิลปิน OTOP  โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก โซนตลาดกลางเส้นไหมและเส้นใยธรรมชาติ 3.การจัดแสดงและจำหน่ายผลงานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ  4.การจำหน่ายสินค้า OTOP ทั้ง 5 ประเภท  OTOP : KBO / OTOP Brand name / OTOP Premium / OTOP Trader / OTOP ชวนชิม รวมถึงผักและผลไม้



    นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการจากหน่วยงานภาคี และกิจกรรมการแสดง เช่น การแสดงมินิคอนเสิร์ต จากศิลปินชื่อดัง อาทิ ลำไย ไหทองคำ /เก่ง ธชย/รุ่ง สุริยา เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิ  กิจกรรมจับสลากมอบรางวัลผู้โชคดีภายในงานทุกวัน  เพียงซื้อสินค้าครบ 500 บาท รับคูปองลุ้นรับ Gift Voucher มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 12 รางวัล และวันสุดท้ายลุ้นรับทองคำ จำนวน 7 รางวัล

    “12 – 20 สิงหาคมนี้ ผมขอเชิญชวนทุกท่านมาชม ชิม ช้อป  และร่วมภาคภูมิใจไปกับผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะผ้าไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างโอกาส และสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3  เมืองทองธานี กันนะครับ” นายสมคิด จันทมฤก กล่าวทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวก.หนุนงานวิจัย “ไข่ผำ”...ขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต

  สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. เดินหน้าพัฒนางานวิจัย      ขานรับนโยบาย รัฐบาล สร้างนวัตกรรมอาหารอนาคต ปฏิรูปภาค...