รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงของรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้น จึงได้จัดสรรงบประมาณผ่านกรมส่งเสริมสหกรณ์ในการลดภาระดอกเบี้ยแก่สมาชิกนำไปสู่การลดภาระหนี้สิน ซึ่งในปีนี้รัฐบาลได้กำหนดเป็นปีแห่ง “การแก้ปัญหาหนี้สิน” ให้ประชาชน จึงจำเป็นต้องหันมาร่วมมือกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่เป็นสถาบันหลักในพื้นที่จะต้องส่งเสริม บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์ หาวิธีการ แนวทางให้สมาชิกประกอบอาชีพแล้วมีรายได้เพิ่มขึ้น มีการวางแผนการประกอบอาชีพ สมาชิกวางแผนทางการเงินด้วยตนเอง รวมทั้งหาแนวทางการส่งเสริมสนับสนุนโครงการพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิก ซึ่งจะสามารถเพิ่มสภาพคล่องในครัวเรือน ลดภาระหนี้สินได้
“สหกรณ์การเกษตรพนมวังก์ ถือเป็นสหกรณ์ที่เข้มแข็งแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง ได้นำนโยบายและงบประมาณที่ได้รับมาดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ โครงการลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ สามารถผลิตภัณฑ์กล้วยตากส่งออกไปยังประเทศบรูไน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร รวมถึงผัก ผลไม้ เมล็ดพันธุ์ต่างๆ ที่สามารถปลูกเพื่อเป็นผลผลิตและส่งออกไปต่างประเทศได้ โครงการชดเชยดอกเบี้ยแก่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร มูลค่าหนี้ 249.49 ล้านบาท ได้บรรเทาภาระดอกเบี้ย รวม 5.66 ล้านบาท ซึ่งทำให้สมาชิกสหกรณ์ 1,954 ราย มีฐานะดีขึ้นส่งผลถึงการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมของประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายในปี 2566 ต้องการให้สหกรณ์ทุกแห่งหาแนวทางลดหนี้สินให้ได้ เพราะหากทำแล้วพี่น้องเกษตรกรยังมีหนี้สินเพิ่มขึ้น ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกันเร่งรัดแก้ไขปัญหาดังกล่าว” รมช.มนัญญา กล่าว
ทั้งนี้ สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจังหวัดพัทลุง ได้ขับเคลื่อนร่วมกับสมาชิก ใน 6 โครงการ ได้แก่ โครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ซึ่งได้ผลักดันให้สมาชิกสหกรณ์หันกลับมาทำการผลิตที่คำนึงถึงสุขภาพของตนเอง ผู้บริโภค ชุมชน โครงการสนับสนุนการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรทดแทนการใช้สารเคมีทางการเกษตร โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านสานต่ออาชีพเกษตร โครงการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรสมาชิก คทช. และโครงการซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ ซึ่งเป็นการบูรณาการระบบการผลิต การตลาดผ่านกลไกสหกรณ์ที่มุ่งรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มีสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรใน 11 อำเภอ ของจังหวัดพัทลุงเข้าร่วมกว่า 2,420 ครัวเรือน มีการส่งต่อผลผลิตมายังซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ในพื้นที่ชุมชนเมือง จำนวน 5 แห่ง เกิดรายได้แก่ครัวเรือนเพิ่มขึ้นต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการชดเชยดอกเบี้ยแก่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เพื่อลดภาระหนี้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ จำนวน 8 แห่ง มูลค่าหนี้ 249.49 ล้านบาท ได้บรรเทาภาระดอกเบี้ย รวม 5.66 ล้านบาท ซึ่งทำให้สมาชิกสหกรณ์ 1,954 ราย มีฐานะดีขึ้นส่งผลถึงการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมของประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนโครงการสนับสนุนอุปกรณ์ตลาดแก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ในจังหวัดพัทลุง ได้รับสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดแก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่มีการจัดการตลาดผลผลิตยางพารา ตลาดผลิตน้ำนมดิบ ตลาดผลผลิตปาล์มน้ำมัน และตลาดผลผลิตข้าว รวม 23 สหกรณ์ มูลค่าทรัพย์สินทางการตลาดของเงินอุดหนุนกว่า 1,500 ล้านบาท ทำให้สามารถลดต้นทุนทางการตลาดแก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งส่งผลถึงการลดต้นทุนในการประกอบอาชีพของสมาชิกสหกรณ์
โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะสมาชิกสหกรณ์ และเยี่ยมชมนิทรรศการจัดแสดงและจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร สินค้าแปรรูป อาทิ ข้าวแต๋น ข้าวกรอบ จากกลุ่มสตรีสหกรณ์แปรรูปอาหารบ้านหนองปริง กล้วยทอดกรอบ ขนมไข่กรอบ ลูกเดือยอบกรอบ จากกลุ่มสตรีสหกรณ์บ้านโหล๊ะจังกระ ปุ๋ยสั่งตัด จากสหกรณ์การเกษตรเมืองพัทลุง จำกัด กุนเชียงสังข์หยด จากสหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์พัทลุง จำกัด นมกล่อง นมถุง จากสหกรณ์โคนมพัทลุง จำกัด ข้าวสังข์หยด ข้าว กข.43 กระจูด จาก สกต.ธกส.พัทลุง จำกัด และข้าวสังห์หยด ถั่วหรั่ง น้ำผึ้งโพรง จากกลุ่มเกษตรกรทำนาตะโหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น