นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ คณะผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ รับฟังรายงานจากองค์กรเครือข่ายผู้เลี้ยง “ควายปลัก” (ควายน้ํา) แห่งทะเลน้อยที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางการเกษตร (GIAHS) ของไทย จากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ณ สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จากนั้น เดินทางไปมอบถุงยังชีพปศุสัตว์และหญ้าแห้งพระราชทาน จำนวน 4 ตัน ให้กับตัวแทนเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงควายทะเลน้อย และพบปะรับฟังปัญหา และให้กำลังใจแก่กลุ่มสหกรณ์จังหวัดพัทลุง
“ยินดีกับพี่น้องชาวพัทลุงและถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ระบบการเลี้ยงควายปลักพื้นที่ทะเลน้อยได้รับประกาศเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของไทย ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของคชุมชนในพื้นที่ จึงขอให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ควายปลักให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และที่สำคัญคน สัตว์ และป่า ต้องอยู่ร่วมกันได้และใช้ประโยชน์ในถิ่นที่อยู่อาศัย สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยการรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ทะเลน้อยถือเป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันรักษา ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมให้การสนับสนุน และบูรณาการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์อย่างยั่งยืนต่อไป” รมช.มนัญญา กล่าว
ทั้งนี้ เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรหัวป่าเขียว จํากัด กลุ่มองค์กรเครือข่าย และประชาชน จํานวน ประมาณ 300 ครัวเรือน ประกอบอาชีพเลี้ยงควายปลัก ในพื้นที่ป่าชื้นเขตอนุรักษ์ห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เนื้อที่ประมาณ 280,000 ไร่ และมีพื้นที่ชุ่มน้ําสามารถเลี้ยงปศุสัตว์ได้ ประมาณ 17,500 ไร่ ทําให้เกิดวิถีวัฒนธรรมการเลี้ยงควายปลัก (ควายน้ําฉ ปัจจุบันมีประมาณ 4,400 ตัว ควายจะมีการผสมพันธุ์แบบเลือดชิดทําให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่น้ําท่วมแหล่งพืชอาหารสัตว์ที่ควายหากินทุกปีในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน จะประสบปัญหาขาดแคลนทําให้ควายตายปีละ 100-200 ตัวทุกปี
ในปี 2560 เป็นต้นมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นถึงความสําคัญของวิถีวัฒนนธรรมดังกล่าวนี้ได้ประสาน ขอขึ้นทะเบียน “ควายปลัก” (ควายน้ํา) แห่งทะเลน้อย เป็นมรดกโลกทางการเกษตร (GIAHS) ของไทย จาก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ทางคณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่จริงในการขอรับรอง ระบบการเลี้ยงควายปลัก (ควายน้ํา) ในพื้นที่ชุ่มน้ําทะเลน้อย ระหว่างวันที่ 5 - 7 ตุลาคม 2565 และได้รับรองขึ้นทะเบียนควายปลัก หรือควายน้ําทะเลน้อย ซึ่งเป็นปศุสัตว์ชนิดแรกของไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกเกษตรโลก สำหรับในด้านการตลาดสหกรณ์ฯ ร่วมกับพันธมิตรเครือข่าย และเกษตรกรสาทารถขายควายไปยังประเทศมาเลเชีย หรือการบริโภคในท้องถิ่น ราคาเฉลี่ยตัวละ 40,000 - 50,000 บาท สร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 50,000 - 100,000 บาทต่อครัวเรือน ถือเป็นอาชีพหลักที่สําคัญ โดยสหกรณ์ฯ จะไปสนับสนุนด้านเงินทุนในการจัดหาพันธุ์วัตถุอาหารเป็นสําคัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น