วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

รองฯ เฉลิมเกียรติ นำสื่อมวลชน ติดตามความก้าวหน้า โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองชุมพร


   
 วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2565) นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ไปติดตามความก้าวหน้าโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม จังหวัดชุมพร หวังบรรเทาและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชุมพรให้ได้มากที่สุด 



    นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์  รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า บริเวณอำเภอเมืองชุมพรมักเกิดน้ำท่วมหลากจากลุ่มน้ำหลักที่สำคัญ 2 สาย ได้แก่ คลองท่าตะเภา และ คลองชุมพร พื้นที่รวมประมาณ 79,500 ไร่ แยกเป็น ลุ่มน้ำคลองท่าตะเภา 42,000 ไร่ ลุ่มน้ำคลองชุมพร 37,500 ไร่ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวชุมพรเป็นล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวชุมพรเป็นอย่างยิ่ง  ทรงทราบถึงภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับชาวชุมพร ได้มีพระราชดำริให้เร่งรัดขุดคลองหัววัง – พนังตัก  ให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับงานชลประทาน อีกหลายอย่าง อาทิ 1. พิจารณาขุดคลองหรือวางท่อเชื่อมต่อระหว่างคลองท่าแซะกับต้นคลองละมุ  เพื่อชักน้ำจากคลองท่าแซะลงหนองใหญ่ให้ราษฎรบริเวณใกล้เคียงมีน้ำใช้ทำการเกษตร  และอุปโภค – บริโภคและในฤดูน้ำหลากสามารถช่วยผันน้ำบางส่วนจากคลองท่าแซะลงแก้มลิง  “ หนองใหญ่ ”  เพื่อระบายน้ำสู่ทะเลผ่านทางคลองระบายน้ำหัววัง – พนังตักได้อีกด้วย



     ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้สนองพระราชดำริด้วยการดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัย ประกอบด้วย 15 กิจกรรม ดังนี้ 1. ขุดคลองระบายน้ำหัววัง-พนังตัก  และก่อสร้างอาคารประกอบ   2. ประตูระบายน้ำหัววัง  3. ประตูระบายน้ำสามแก้ว (ใหม่)  4. ขุดลอกคลองท่าตะเภาและคลองสาขาในบริเวณลุ่มน้ำ  5. ขุดคลองระบายน้ำบ้านดอนทรายแก้วพร้อมปรับปรุงคันกั้นน้ำและอาคารประกอบ  6. ขุดคลองระบายน้ำท่านางสังข์ - บ้านบางตุ่มพร้อมอาคารประกอบ  7. โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ   8. ขุดลอกคลองละมุเชื่อมกับคลองท่าแซะ  9. ศึกษาและวางแผนระบบเตือนภัยน้ำท่วมเมืองชุมพร  10. คันกั้นน้ำคลองสามแก้วและคลองสาขาพร้อมอาคารประกอบ  11. ขุดลอกคลองชุมพรและคลองสาขา  12. ปรับปรุงคลองระบายน้ำสามแก้วพร้อมอาคารประกอบ  13. ปรับปรุงประตูระบายน้ำพนังตักและอาคารประกอบ  14. ประตูระบายน้ำท่าตะเภา และ 15. ประตูระบายน้ำท่าแซะ  



      ในส่วนของลุ่มน้ำคลองชุมพร เกิดจากต้นน้ำในเขตอำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง มีความยาวลำน้ำประมาณ 75 กิโลเมตร สภาพท้องคลองมีความลาดชันสูง คดเคี้ยวและมีขนาดแคบ ทั้งสองฝั่งคลองมีบ้านเรือนอยู่อย่างหนาแน่นเป็นชุมชนเมือง ช่วงปลายคลองเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ เมื่อน้ำทะเลหนุนจะรุกล้ำเข้ามาในลำคลองเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ในขณะที่มีขีดความสามารถในการระบายน้ำได้ประมาณ 140 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เท่านั้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำในคลองชุมพรเอ่อล้นตลิ่ง กรมชลประทาน ได้วางแผนแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำคลองชุมพร โดยการตัดยอดน้ำของคลองชุมพรให้สามารถไหลออกสู่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดการท่วมขังบริเวณถนนสายเอเชีย 41 และบริเวณพื้นที่ตอนล่างในเขตอำเภอเมืองชุมพร พร้อมกับการขุดคลองผันน้ำ เพื่อผันน้ำจากคลองชุมพรผ่านคลองขุดใหม่เชื่อมต่อกับคลองนาคราช และขุดขยายคลองนาคราชให้สามารถระบายน้ำได้ 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมทั้งขุดลอกคลองชุมพรเดิมให้สามารถระบายน้ำได้ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และขุดขยายคลองชุมพรเดิมช่วงปลายให้สามารถระบายน้ำได้ 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมทั้งก่อสร้างประตูระบายน้ำบริเวณปากคลองผันน้ำ จำนวน 1 แห่ง และก่อสร้างประตูระบายน้ำในคลองชุมพร จำนวน 3 แห่ง

    ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถระบายน้ำและบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ตอนล่างอำเภอเมืองชุมพร และสามารถเก็บกักน้ำไว้ในลำคลอง เพื่อใช้ประโยชน์ช่วงฤดูแล้ง 6.50 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มพื้นที่รับประโยชน์ 6,875 ไร่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวก.หนุนงานวิจัย “ไข่ผำ”...ขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต

  สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. เดินหน้าพัฒนางานวิจัย      ขานรับนโยบาย รัฐบาล สร้างนวัตกรรมอาหารอนาคต ปฏิรูปภาค...