ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิด "งานรณรงค์การถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตข้าวให้ปฏิบัติได้จริง" ภายใต้โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว กิจกรรมหลักสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว พร้อมมอบเมล็ดพันธุ์ข้าว โค-กระบือ ท่อนพันธุ์นาหญ้า หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) สินเชื่อ พันธุ์ปลา จำนวน 50,000 ตัว ปัจจัยการผลิต พันธุ์ผัก ให้แก่เกษตรกร เยี่ยมชมนิทรรศการและพบปะเกษตรกร โดยมี นายสมเกียรติ กอไพศาล ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูรอินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมการข้าว มุ่งเสริมสร้างความตระหนักรู้ในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว การลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิต และยกระดับคุณภาพ ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ให้มีความรู้ความเข้าใจ และได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนการผลิตข้าวที่เหมาะสม และสร้างโอกาสในการเพิ่มคุณภาพผลผลิตและผลตอบแทนจากการผลิต ซึ่งปัจจุบันต้นทุนการผลิตข้าวสูงขึ้น ประกอบกับราคาที่เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตข้าวมีความผันผวน การจัดงานในครั้งนี้ จึงเป็นการเชื่อมโยงนโยบายการพัฒนาข้าวสู่การปฏิบัติในพื้นที่ปลูกข้าวทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ข้าวคุณภาพดีส่วนหนึ่งจะต้องมาจากเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีมาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันยังมีปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยนอกจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว ของกรมการข้าว ที่ทำหน้าที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้วนั้น กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมการข้าว ยังสนับสนุนให้ศูนย์ข้าวชุมชนเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญและใกล้ตัวเกษตรกรที่จะมาเติมเต็มปริมาณเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีที่ยังขาดแคลน ให้ถึงมือเกษตรกรโดยตรงด้วย
ทั้งนี้ จังหวัดสุพรรณบุรี มีพื้นที่ทำการเกษตรทั้งสิ้น3.3 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าว 1.3 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ39 ของพื้นที่ทำการเกษตร พื้นที่ปลูกข้าวอยู่ในเขตพื้นที่ชลประทาน ร้อยละ 84 ของพื้นที่ปลูกข้าว ผลผลิตเฉลี่ย(ข้าว) 736 กิโลกรัมต่อไร่ มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวประมาณ 40,000 ราย
"รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงพื้นที่ในวันนี้ เพราะจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญ จึงนำผู้บริหารมาทั้งกระทรวงเพื่อมารับฟังปัญหาจากพี่น้องชาวนาโดยตรง ซึ่งพี่น้องชาวนาถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติ จึงพยายามเข้ามาดูว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น โดยสิ่งหนึ่งที่ขาดไปคือการพัฒนาพันธุ์ข้าว กรมการข้าวจึงต้องพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพ และนำงานวิจัย นวัตกรรม และนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อให้พี่น้องชาวนามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความเข้มแข็งมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หัวใจของการดำเนินการจึงต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยศูนย์ข้าวชุมชนจะเป็นพี่เลี้ยง และรัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนปัจจัยต่าง ๆเพื่อเพิ่มผลผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่ม จึงไม่เคยเสียดายงบประมาณที่จะมาสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรซึ่งเชื่อว่านโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก จะเป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อม ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงเกษตรฯ ยุคนี้จะเปรียบเสมือนคนในครอบครัว และเป็นมิตรแท้ของพี่น้องเกษตรกรอย่างแน่นอน" ดร.เฉลิมชัย กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น