นางอัญชนา ตราโช
รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์สินค้าทุเรียนภาคตะวันออก
ในพื้นที่จังหวัดตราด จันทบุรี และระยอง เมื่อปลายเดือนมีนาคม ถึง
ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า ปี 2564 ทุเรียนให้ผลผลิต 575,542
ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อยร้อยละ 5
ขณะนี้ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดแล้วเป็นทุเรียนพันธุ์เบา เช่น พันธุ์กระดุม พวงมณี
ซึ่งเป็นพันธุ์ที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้น (90 – 95 วัน)
และจะให้ผลผลิตออกสู่ตลาดก่อนพันธุ์หมอนทองที่มีอายุเก็บเกี่ยวยาวกว่า (110 – 120 วัน) ทั้งนี้
ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมนี้ ขณะเดียวกันภาครัฐได้มีการกำหนดมาตรการป้องกันทุเรียนอ่อนไม่ให้ออกนอกแหล่งผลิตอย่างเข้มงวด
ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานในพื้นที่
โดยมีกรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลัก มีการประกาศให้วันที่
10 เมษายน 2564
เป็นวันเริ่มเก็บเกี่ยวทุเรียนหมอนทองในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด ซึ่งล่าสุด
จากการสุ่มตรวจ พบว่า จันทบุรี
พบทุเรียนอ่อน 30%
ระยอง พบทุเรียนอ่อน 37% และ ตราด
ยังไม่พบทุเรียนอ่อน
“ปี 2564 นับเป็นปีแรกที่กระทรวงเกษตรฯ มีการประกาศวันทุเรียนแก่ คือวันที่ 10 เมษายน เพื่อให้เกษตรกรเริ่มเก็บเกี่ยวทุเรียนพันธุ์หมอนทองภาคตะวันออก
โดยไม่แยกรายจังหวัด และกำหนดมาตรฐานทุเรียนแก่
จะต้องมีเปอร์เซ็นต์เนื้อแป้งมากกว่า 32 เปอร์เซ็นต์ โดยหลังวันที่ 10 เมษายน
เป็นต้นมา เกษตรกร สามารถที่จะตัดทุเรียนขายได้ตามปกติ แต่แน่นอนว่าภาครัฐก็ยังคงเฝ้าระวังการตัดทุเรียนอ่อนอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งช่วงที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจได้เข้าตรวจสอบโรงคัดบรรจุที่มีการรับซื้อผลผลิตในพื้นที่
พบว่ามีการตัดทุเรียนอ่อนและมีการจับกุมดำเนินคดีแล้วหลายราย โดยผู้จำหน่ายทุเรียนอ่อนจะได้รับโทษตามกฎหมาย
” รองเลขาธิการ สศก. กล่าว
ทั้งนี้
ยังได้เน้นมาตรการควบคุมการส่งออกทุเรียนปลอดเชื้อโควิด-19
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นผลผลิตทุเรียนไทยซึ่งมีมูลค่าซื้อขายทั้งในและต่างประเทศปีละไม่ต่ำกว่า
7 หมื่นล้านบาท ด้วย 3
มาตรการที่ครอบคลุม คือมาตรการสำหรับเกษตรกรชาวสวน มาตรการสำหรับผู้ประกอบการ
สถานประกอบการโรงคัดบรรจุผลไม้ (ล้ง) และมาตรการสำหรับผู้ปฏิบัติงาน
ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเกษตร (ผลไม้) ตั้งแต่การพ่นยาฆ่าเชื้อต้นทางจากสวนทุเรียน
จนถึงระบบขนส่ง พร้อมกันนั้นก็ได้จัดทำคลิปวีดีโอทั้งภาษาไทย
อังกฤษ จีน และเอกสารประชาสัมพันธ์ภาษาเกาหลี
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผลผลิตทุเรียนไทยต่อประเทศคู่ค้าสำคัญต่าง ๆ โดยในส่วนของผู้บริโภคในประเทศสามารถที่จะเลือกซื้อทุเรียนรวมทั้งผลไม้ตามฤดูกาลคุณภาพดีและปลอดเชื้อได้อย่างสะดวกสบายผ่านแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์
อาทิ ไปรษณีย์ไทย www.thailandpostmart.com ที่มีบริการส่งผลไม้สดถึงบ้าน
ในราคาเหมาจ่ายตามน้ำหนัก เริ่มต้นไม่เกิน 3 กก. ราคาเพียง 50 บาท
รองรับน้ำหนักสูงสุดถึง 20 กก. รวมถึงโปรโมชั่นรับเทศกาลผลไม้ ส่งผลไม้ด้วยบริการ EMS จะได้รับส่วนลด
20% ของค่าบริการแบบเหมาจ่ายตามพิกัดน้ำหนัก ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2564
อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น