วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

มหิดลนครสวรรค์ และซินเจนทา ขยายเครือข่าย “รักษ์ผึ้ง” ภาคกลางและตะวันออก สร้างความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน


 

สำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้วันที่ 22 พฤษภาคมของทุกปีเป็น วันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพโดยปีนี้ มีแนวคิดสำคัญคือ เราทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการขจัดปัญหาอย่างยั่งยืน” (We’re part of the solution.) สอดคล้องกับแผนการเติบโตเชิงบวก (Good Growth Plan) ของซินเจนทา ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ นำไปสู่การพัฒนาและเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างยั่งยืน



นางสาววัชรีภรณ์ พันธ์ภูมิพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน ซินเจนทา เปิดเผยว่า หนึ่งในแผนงานสำคัญตามอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพขององค์การสหประชาชาติ ซินเจนทาได้ร่วมกับโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดจันทบุรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ดำเนินโครงการ รักษ์ผึ้งมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 โดยจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ และพัฒนาโรงเรียนต้นแบบเครือข่ายการเรียนรู้ รักษ์ผึ้งผ่านงานวิจัยและการอบรมส่งเสริมให้แก่กลุ่มเกษตรกร โรงเรียน และชุมชนรอบพื้นที่เกษตรกรรมภาคกลางและภาคตะวันออก เพื่อเผยแพร่ความรู้ และสร้างความตระหนัก ในการรักษาระบบนิเวศ ดูแลแมลงผสมเกสร ตลอดจนรักษาความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน



ดร.สิทธิพงษ์ วงศ์วิลาศ นักวิชาการศึกษา โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้ร่วมรับผิดชอบโครงการ รักษ์ผึ้งกล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ของมหาวิทยาลัยมหิดล นครสวรรค์ ได้จัดเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องผึ้งและความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ BEE LAND เพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนและการสอน เรื่องการเลี้ยง การเพิ่มผลผลิต และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผึ้ง รวมทั้งได้ประสานกับโรงเรียนระดับมัธยม เพื่อสร้างโรงเรียนเครือข่ายการเรียนรู้ รักษ์ผึ้งในเบื้องต้นมี 10 แห่งในจังหวัดนครสวรรค์ และ 5 แห่งในจังหวัดจันทบุรี เข้าร่วมเป็นโรงเรียนต้นแบบ นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ชุมชนเกษตรกร อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนลำไยและผู้เลี้ยงผึ้งได้ประสานความร่วมมือ เพื่อรักษาระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพโดยได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างสมดุลทั้งชาวสวนและผู้เลี้ยงผึ้ง



นายอานพ วนามี เจ้าของฟาร์มผึ้งสอยดาว เป็นประธานศูนย์ประสานงานโครงการ รักษ์ผึ้งอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี กล่าวเสริมว่า หัวใจสำคัญของโครงการ คือ ซินเจนทาและมหาวิทยาลัยมหิดล ได้เข้ามาสร้างความเข้าใจและตอบสนองความต้องการระหว่างเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งกับผู้ปลูกผลไม้ให้ได้ผลผลิตอย่างปลอดภัยตามระบบ GAP เพราะการดำเนินงานจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ โดยเฉพาะกลุ่มลำไย ซึ่งต้องการให้ผึ้งมาช่วยในการผสมเกสรดอก ยิ่งได้รับการผสมเกสรมากเท่าใด ผลก็ยิ่งติดลูกมากเท่านั้น การใช้ผึ้งช่วยผสมเกสรสามารถเพิ่มอัตราการติดดอกได้เพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 30 ส่วนเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้ง ต้องการนำรังผึ้งไปวางในสวนต่าง ๆ เพื่อนำน้ำหวานจากเกสรดอกลำไยมาผลิตน้ำผึ้ง ซึ่งน้ำผึ้งจากดอกลำไยเป็นที่นิยมในตลาดไทยและตลาดต่างประเทศ อาทิ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เพราะมีกลิ่นหอมและหวาน ดังนั้น หากเจ้าของสวนและผู้เลี้ยงผึ้งมีความรู้และความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น ก็จะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยกับผู้บริโภคมากขึ้น  ปัจจุบันได้รับความสนใจจากเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งประมาณ และชาวสวนลำไยเกือบ 100 ราย โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

นางสาวกมลชนก บุญฤทธิ์ ครูผู้สอนวิชาชีววิทยา โรงเรียนเซนต์โยเซฟนครสวรรค์ หนึ่งในโรงเรียนต้นแบบในเขตพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า การดำเนินงานในโรงเรียนต้นแบบเครือข่ายการเรียนรู้ รักษ์ผึ้งจะนำองค์ความรู้เกี่ยวกับนิเวศวิทยาการเลี้ยงผึ้ง เข้าไปอยู่ในวิชาหมวดการงานอาชีพของนักศึกษาระดับมัธยมปลายในโรงเรียนเป้าหมาย โดยนักวิชาการจากซินเจนทาและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมหิดลจะไปร่วมถ่ายทอดความรู้เชิงทฤษฎีและเปิดโอกาสให้ฝึกปฏิบัติจริงในหลายด้าน อาทิ การศึกษาสภาพแวดล้อม ชีววิทยาและพฤติกรรมของผึ้งต่าง ๆ การบริหารจัดการรังผึ้งและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผึ้ง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและเกิดความเข้าใจจากการปฏิบัติจริง แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงได้มีการปรับรูปแบบเป็นการเรียนออนไลน์แทน




เช่นเดียวกับ โรงเรียนมะขามสรรเสริญ นายสุพร พงศ์วิฑูรย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนและที่ปรึกษาโครงการโรงเรียนต้นแบบในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี กล่าวสนับสนุนว่า โครงการ รักษ์ผึ้งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านการศึกษาที่ว่า ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้เป็นการเสริมความรู้และทักษะการประกอบสัมมนาอาชีพที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 โดยโครงการดังกล่าว ให้ทั้งความรู้และแนวทางการปฏิบัติ อีกยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกในเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ปัจจุบันมีโรงเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเข้าร่วมเป็นโรงเรียนต้นแบบแล้ว 5 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดวังจะอ้าย โรงเรียนวัดหนองสลุด โรงเรียนวัดมะทาย โรงเรียนบ้านมะขาม และโรงเรียนมะขามสรรเสริญ รวมทั้งมีแผนจะขยายไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่ทั่วตะวันออกในอนาคต

ความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ โรงเรียนต้นแบบเครือข่าย และศูนย์เครือข่ายทั้งหมดนี้ เป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจของซินเจนทา ในการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาช่วยเหลือเกษตรกรและภาคการเกษตรของไทย โดย โครงการรักษ์ผึ้ง เป็นหนึ่งตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของการผสมผสานวิถีแห่งธรรมชาติเข้ากับนวัตกรรมการเลี้ยงผึ้งและการบริหารการเพาะปลูกผลไม้ได้อย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์ ทำให้สามารถดูแลและรักษาผลผลิต สร้างผลกำไร ลดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมให้แก่เกษตรกรและชุมชนโดยรอบได้อีกด้วยนางสาววัชรีภรณ์ กล่าวสรุป

สำหรับเกษตรกร โรงเรียน ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ รักษ์ผึ้งติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 088-445-6406 หรือ https://na.mahidol.ac.th/academic/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวก.หนุนงานวิจัย “ไข่ผำ”...ขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต

  สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. เดินหน้าพัฒนางานวิจัย      ขานรับนโยบาย รัฐบาล สร้างนวัตกรรมอาหารอนาคต ปฏิรูปภาค...