วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

กรมส่งเสริมการเกษตร โชว์ผลสำเร็จแปลงใหญ่จังหวัดสระบุรี ภายใต้ “โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด”


 

กรมส่งเสริมการเกษตร นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ดูความคืบหน้าโครงการยกระดับแปลงใหญ่ฯ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี  โชว์ผลสำเร็จแปลงใหญ่พืชไร่และประมง ใช้เทคโนโลยีใหม่ต่อการพัฒนาอาชีพ มุ่งสู่การพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็ง และยั่งยืน



            นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า  เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องมุ่งเน้นการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น เพื่อพยุงเศรษฐกิจและเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก ในปีงบประมาณ 2564 กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ร่วมกับหน่วยงานเจ้าของสินค้าอีก 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย  กรมการข้าว กรมปศุสัตว์ กรมประมง การยางแห่งประเทศไทย และกรมหม่อนไหม โดยเน้นส่งเสริมการผลิตในรูปแบบเกษตรสมัยใหม่ เกษตรอัจฉริยะ เกษตรแม่นยำที่มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ และสร้างความร่วมมือการบริหารจัดการที่เชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่อุปทาน ข้อมูลภาพรวมโครงการ ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มแปลงใหญ่ที่แจ้งเข้าร่วมโครงการยกระดับฯ ทั้งสิ้น 3,381 แปลง แบ่งเป็น กรมส่งเสริมการเกษตร 1,065 แปลง กรมการข้าว 2,029 แปลง กรมปศุสัตว์ 109 แปลง กรมประมง 29 แปลง การยางแห่งประเทศไทย 134  แปลง และกรมหม่อนไหม 15 แปลง 



อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดสระบุรี มีแปลงใหญ่ทั้งสิ้นจำนวน 77 แปลง ซึ่งได้เสนอความต้องการเข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ทั้งหมดจำนวน 61 แปลง งบประมาณรวมประมาณ 152.7 ล้านบาท โดยมีจำนวน 36 แปลงที่ยืนยันเข้าร่วมโครงการฯ งบประมาณรวมประมาณ 100.7 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการเบิกจ่ายแล้วร้อยละ 98.36 ของจำนวนแปลงที่เข้าร่วมโครงการของจังหวัด ซึ่งจากการติดตามผลการดำเนินงาน มีแปลงใหญ่ในจังหวัดสระบุรีหลายแปลงที่เข้าร่วมโครงการแล้วประสบความสำเร็จ สามารถต่อยอดพัฒนากลุ่มไปสู่การทำเกษตรสมัยใหม่ได้อย่างเข้มแข็ง อาทิ แปลงใหญ่มันสำปะหลังตำบลวังม่วง อำเภอวังม่วง ที่สามารถพัฒนากระบวนการผลิตมันสำปะหลัง โดยไม่มีวัสดุทางการเกษตรเหลือทิ้ง (zero waste) โดยการใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของมันสำปะหลัง ได้แก่ 1) การนำใบและยอดมาหมักเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหาร TMR สำหรับโคนม  2) นำหัวมันสดมาแปรรูปเป็นมันเส้นสะอาดและหัวมันหมัก 3) นำส่วนของเหง้ามันสำปะหลังมาเผาเป็นถ่านด้วยเตาเผาถ่านชีวมวล และ 4) มีการเก็บต้นมันสำปะหลังเป็นท่อนพันธุ์สำหรับการปลูกในครั้งต่อไป ซึ่งนับเป็นผลสำเร็จของโครงการฯ ที่มีส่วนผลักดันให้เกษตรกรสามารถดำเนินธุรกิจในระดับชุมชนได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้เลี้ยงปลาดุกแปลงใหญ่อำเภอวังม่วง ที่เกษตรกรสามารถใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพในการผลิตและลดต้นทุน รวมทั้งสมาชิกทุกคนยังได้รับการรับรองมาตรฐานฟาร์มการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของกรมประมง (GAP กรมประมง) แล้ว



ทั้งนี้ โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด เป็นโครงการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการต่อยอดมาจากโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2559 เน้นการรวมกลุ่มของเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ โดยวางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน เพื่อประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตามนโยบายการตลาดนำการผลิต โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานขับเคลื่อนการดำเนินงานกับหน่วยงานเจ้าของสินค้า  ปัจจุบันมีแปลงใหญ่ที่ผ่านการรับรองแล้ว จำนวน 8,318 แปลง เกษตรกรประมาณ 4.67 แสนราย พื้นที่กว่า  7.65 ล้านไร่ สร้างมูลค่าเพิ่มจากการลดต้นทุนและการเพิ่มผลผลิตรวมประมาณ 47,275.71 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวก.หนุนงานวิจัย “ไข่ผำ”...ขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต

  สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. เดินหน้าพัฒนางานวิจัย      ขานรับนโยบาย รัฐบาล สร้างนวัตกรรมอาหารอนาคต ปฏิรูปภาค...