จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จำเป็นต้องมุ่งเน้นการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น
เพื่อลดผลกระทบจากการหดตัวของภาคเศรษฐกิจสำคัญ
รวมทั้งจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรของภาครัฐในการลงทุน
เพื่อพยุงเศรษฐกิจและเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกรอบนโยบายด้านเกษตร ซึ่งดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
พัฒนาศักยภาพการผลิต ต่อยอดของเดิมให้ดีขึ้น เน้นการผลิตในรูปแบบเกษตรสมัยใหม่
เกษตรอัจฉริยะ
เกษตรแปลงใหญ่เกษตรแม่นยำที่มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้
มีการสร้างความร่วมมือการบริหารจัดการที่เชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่
ตั้งแต่การวางแผนการผลิต การแปรรูป และการตลาด
ตลอดจนการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตร
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต
รวมทั้งมีการพัฒนากระบวนการผลิตที่ถูกสุขลักษณะและได้มาตรฐานความปลอดภัย
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่
เน้นการรวมกลุ่มของเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่
โดยวางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน
เพื่อประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
ตามนโยบายการตลาดนำการผลิต โดยเกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่จะร่วมกันกำหนดเป้าหมายการผลิต
การถ่ายทอดเทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุกขั้นตอน
จนถึงการเชื่อมโยงตลาดกับภาคเอกชนแบบประชารัฐ
โดยมีแผนการพัฒนาเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 5 ด้าน ได้แก่ การลดต้นทุนการผลิต
การเพิ่มผลผลิต การพัฒนาคุณภาพ การตลาด และการบริหารจัดการ
ปัจจุบันมีแปลงใหญ่ที่ผ่านการรับรองแล้ว จำนวน 8,318 แปลง
เกษตรกรประมาณ 4.67 แสนราย พื้นที่กว่า
7.65 ล้านไร่ สร้างมูลค่าเพิ่มจากการลดต้นทุนและการเพิ่มผลผลิตรวมประมาณ 47,275.71 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564) สำหรับพื้นที่จังหวัดสระบุรี
มีแปลงใหญ่ทั้งสิ้นจำนวน 77 แปลง เกษตรกร 4,154 ราย พื้นที่ 113,056.94 ไร่
ซึ่งได้เสนอความต้องการโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดทั้งหมด
จำนวน 61 แปลง โดย“กลุ่มผู้เลี้ยงปลาดุกแปลงใหญ่อำเภอวังม่วง” เป็นอีกหนึ่งกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับเงินอุดหนุน
โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด
สำหรับ “กลุ่มผู้เลี้ยงปลาดุกแปลงใหญ่อำเภอวังม่วง”
เป็นการรวมตัวของเกษตรกรเพื่อผลิตปลาดุกบิ๊กอุย
ปลาดุกรัสเซีย และ ผลิตภัณฑ์ปลาดุกแดดเดียว ปลาดุกสวรรค์ ปลาดุกเส้นปรุงรส
มีกำลังการผลิตรวม 4,664,360.88 กิโลกรัม เฉลี่ย 44,222.85 กิโลกรัม/ไร่ เป็นกลุ่มเกษตรกรที่มีประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิตด้วยเกษตรสมัยใหม่ โดยการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร
มีโรงเรือนแปรรูปสินค้าสัตว์น้ำที่ได้มาตรฐาน และบริหารจัดการการใช้เครื่องมือ
วัสดุอุปกรณ์ร่วมกัน กลุ่มมีการบริหารจัดการที่เข้มแข็ง แบ่งหน้าที่ในการบริหารอย่างชัดเจน
และสมาชิกของกลุ่มฯ ทั้ง 45 ราย ก็ได้รับมาตรฐานฟาร์มการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของกรมประมง
(GAP กรมประมง) แล้วทั้งสิ้น
ด้าน
นายประเทือง มานะกุล ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงปลาดุกแปลงใหญ่อำเภอวังม่วง เปิดเผยว่า
การรวมกลุ่มกันเลี้ยงปลาดุกในรูปแบบแปลงใหญ่ มีแต่ช่วยให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์
ทั้งในด้านการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและการตลาด เนื่องจากมีทีมผู้จัดการแปลง ช่วยทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานภาคีทุกกิจกรรมในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่
เริ่มตั้งแต่การประชาสัมพันธ์โครงการ รับสมัครสมาชิก ตรวจติดตามการดำเนินงาน
ร่วมแก้ไขปัญหาในขบวนการผลิต ตลอดจนการเชื่อมโยงการตลาด และการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
เช่น แก้ไขปัญหาให้กับสมาชิกกลุ่มในเรื่องการจัดหาปัจจัยการผลิต
และเงินทุนหมุนเวียน เป็นต้น
ปัจจุบันทางกลุ่มฯ มีกำลังการผลิตปลาดุกรวม
4,664,360.88 กิโลกรัม เฉลี่ย 44,222.85 กิโลกรัม/ไร่ ซึ่งทางกลุ่มฯ ได้ขอรับสนับสนุนงบประมาณจากโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด
วงเงิน 3,000,000.00 บาท เพื่อมายกระดับการผลิตให้ไปสู่สินค้าที่มีคุณภาพ
มาตรฐาน สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เข้าสู่ตลาดออนไลน์ ต่อยอดในเรื่องของการแปรูปผลผลิต
ปลาดุกสวรรค์ ปลาดุกเส้นปรุงรสสมนุไพร หนังปลาดุกปรุงรส สมุนไพรก้างปลาปรุงรสสมุนไพรและปลาดุกแดดเดียว
โดยมีอาคารแปรรูปปลาดุก เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าสัตว์น้ำ ขยายช่องทางการตลาด
และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันการผลิตสินค้าสัตว์น้ำ
จึงจำเป็นต้องมีสถานที่ในการแปรรูปสินค้าสัตว์น้ำให้ได้มาตรฐานปลอดภัยสู่ตลาดผู้บริโภค
ในด้านการตลาด จะจำหน่ายปลาสดในตลาดทุกระดับ
มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปส่งตลาดท้องถิ่น และสร้างตลาดออนไลน์ โดยจะรักษาตลาดเดิม
และสร้างคุณภาพของสินค้าให้ได้มาตรฐาน เช่น อย. เพื่อหาแหล่งตลาดใหม่ เช่น ตลาด Modern Trade ตลาดประชารัฐ มีการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์
ผลผลิตของกลุ่มฯ ผ่านสื่อทีวี ยูทูป รายการต่างๆ และสร้างผลผลิตใหม่ๆที่เป็นความต้องการของตลาด
ซึ่ง นอกจากแปรรูปผลผลิตของกลุ่มแล้วยังวางแผนการรับจ้างผลิตอีกทางหนึ่งด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น