เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ทีมพลังรักษ์สหกรณ์
นำโดยนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์
สัตยสัณห์สกุล และผู้สมัครในนามทีมพลังรักษ์สหกรณ์
ร่วมแถลงนโยบายลงสมัครเลือกตั้งประธาน
และคณะกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทยจำกัด (ชสอ.) ณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
(สสท.) ถนนพิชัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ
นายปรเมศวร์ กล่าวว่า
หลายปีที่ผ่านมากระบวนการสหกรณ์ประสบปัญหามากมาย ทำให้สหกรณ์ไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร
ทีมเราจึงต้องการไปพัฒนา ชสอ. เพื่อไปสร้างสหกรณ์สมาชิกให้มีความเข้มแข็ง
และพัฒนาสมาชิก เพราะสมาชิกของเราเป็นฐานรากของระบบเศรษฐกิจ
วันนี้สหกรณ์ออมทรัพย์มีสมาชิกเป็นล้านล้าน จะต้องทำอย่างไรให้สมาชิกเข้มแข็ง
ทั้งนี้
ทีมทั้งหมดคิดว่าสหกรณ์ไม่ได้บริหารงานเงินแต่บริหารชีวิตของสมาชิกให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถยืนบนขาตัวเองได้
รวมทั้งมีคนของเรารวมอยู่ในคณะกรรมการพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.)
มีแรงที่จะไปผลักดันสร้างเศรษฐกิจฐานรากทั้งภาคการเกษตร
และนอกการเกษตรให้เดินต่อไปได้
นอกจากนี้
เรายังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงแรงงานช่วยในการสร้างสหกรณ์ให้กับแรงงาน
ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ ชสอ. และสสท. ส่งเสริมให้สมาชิกที่อยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม
สถานประกอบการได้มีสวัสดิการที่ดีขึ้น
วันนี้ถึงเวลาที่เราจะต้องนำกระบวนการสหกรณ์เดินหน้าไปให้ได้
คนที่อยู่ในทีมของเราได้มีการคัดสรรมาแล้ว เช่น ตัวแทนจากสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุข
สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ เพราะมีการจัดสวัสดิการถือเป็นต้นแบบที่ดีที่จะเป็นแบบอย่างให้กับสหกรณ์ประเภทอื่นๆ
รวมทั้งยังมีตัวแทนของครูที่จะมาร่วมแก้วิกฤตของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู
ซึ่งเรามีครบทุกฝ่าย
โดยกรรมการชุดนี้อาสาสมัครเพื่อพัฒนาชุมชนคนฐานรากของประเทศไทย
จึงอยากฝากทีมพลังรักษ์สหกรณ์เพื่อให้สหกรณ์เดินได้ เศรษฐกิจสหกรณ์เดินได้
ด้าน พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า
ในฐานที่ตนเป็นประธานคณะกรรรมการ ชสอ. มา 2
ปี ผลงานที่ผ่านมา ได้มีการผลักดันเรื่องกฎกระทรวง
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อขบวนการสหกรณ์ รวมทั้งมีการต่อสู้ในเรื่องของเงินกู้การบินไทย
ซึ่งมี 87 สหกรณ์ ถือหุ้นอยู่ประมาน 47,000 ล้านบาท ต่อสู้เพื่อไม่ให้มีการตัดหนี้สหกรณ์ออก เงินทุกบาทต้องอยู่ครบ
ในปีนี้มีการบริหารงานภายใต้วิกฤตโควิด-19
และเศรษฐกิจไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็สามารถทำกำไรได้มากมาย
โดยการบริหารงานของทีมพลังรักษ์สหกรณ์ อย่างไรก็ตาม ตนคนเดียวทำไม่ได้
แต่ที่ทำได้คือความร่วมมือจากทีมเดียวกันที่เป็นทีมสามารถบริหารงานโดยไม่มีอุปสรรคปัญหา
ฉะนั้นทีมเราขอเสนอตัวเป็นผู้แทนโดยได้มีการคัดเลือกผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ
ดังนั้นขอให้เชื่อใจทีมพลังรักษ์สหกรณ์เพื่อสานงานเก่า ก่องานใหม่ ตั้งใจพัฒนา
สหกรณ์สมาชิกให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน
ขณะที่ ดร.มะณู บุญศรีมณีชัย
ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขหนองคายจำกัด และผู้สมัครเลือกตั้งประธาน ชสอ.
กล่าวว่า ทีมพลังรักษ์สหกรณ์มีนโยบายที่จะสานงานต่อ ก่องานใหม่
ตั้งใจพัฒนาภายใต้นโยบาย 8 ระบบ ได้แก่ 1.ระบบการบริหารจัดการ ชสอ.ต้องทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของกระบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์
เพื่อให้การแข่งขันกับสถาบันการเงินอื่นนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่น ความมั่นคง
และยั่งยืน 2.ระบบสวัสดิการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดสวัสดิการของสหกรณ์สมาชิก
เพื่อสร้างความมั่นคงของสมาชิกสหกรณ์ 3.ระบบพัฒนาบุคลาการ
โดยพัฒนาสถาบันและพัฒนาบุคลาการออมทรัพย์เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาคนเข้าสู่กระบวนการสหกรณ์
4.ระบบเครือข่ายและการมีส่วนร่วม
มีการจัดสรรและกระจายงบลงสู่พื้นที่อย่างเพียงพอและเป็นธรรม
ส่งเสริมให้เขตพื้นที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาตามบริบทของพื้นที่
พร้อมเปิดพื้นที่สะท้อนและรับฟังความคิดเห็นของสหกรณ์สมาชิกในรูปแบบสภาที่ปรึกษา 5.ระบบการออม
ส่งเสริมการออมแก่กระบวนสหกรณ์พร้อมผลักดันให้การออมเป็นวาระแห่งปี 6.ระบบสินเชื่อ ให้มีจัดระบบสินเชื่อให้มีความหลากหลาย
และสามารถเข้าถึงได้อย่างครอบคลุม 7.ระบบการลงทุน
บริหารการลงทุนของ ชสอ.อย่างมืออาชีพเพื่อสร้างความมั่นคงและรักษาสภาพคล่องทางการเงินที่สมดุล
ในรูปแบบสมาคมนักลงทุนในกระบวนการสหกรณ์ และ8.ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ยกระดับ ชสอ.เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาระบบไอที
และศูนย์ข้อมูลกลางในรูปแบบบิ๊กดาต้าเพื่อนำไปสู่การพัฒนาให้เป็นสารสนเทศ MIS
3
“เป้าหมายของทีมพลังรักษ์สหกรณ์
คือการพัฒนาให้สหกรณ์สมาชิกที่มีศักยภาพเป็นมืออาชีพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์
ที่มีประมาน 3.3 ล้านล้านคน ที่ดีขึ้น”ดร.มะณู กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น