นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า สภาพอากาศร้อนจัด
และภัยแล้งที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2563 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ประกอบกับรายงานของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ
(สสน.) ว่าปี 2564 ประเทศไทยจะเผชิญวิกฤตภัยแล้งหนัก เนื่องจากปริมาณฝนสะสมในปีที่ผ่านมา
มีค่าน้อยกว่าค่าปกติร้อยละ 4
ถือเป็นเหตุการณ์ฝนน้อยกว่าปกติ 2 ปีติดต่อกัน (2562-2563)
ทำให้ฤดูแล้งนี้จะมีน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร
โดยเฉพาะในการเลี้ยงสุกรที่ต้องใช้น้ำสำหรับกินและใช้ในกระบวนการเลี้ยงในปริมาณมาก
โดยเฉลี่ยพ่อแม่พันธุ์สุกรใช้น้ำวันละ 130 ลิตรต่อตัว
สุกรขุนใช้น้ำวันละ 40 ลิตรต่อตัว
ทำให้ปริมาณน้ำที่เกษตรกรกักเก็บสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งเริ่มไม่เพียงพอ
เกษตรกรหลายพื้นที่ต้องซื้อน้ำจากแหล่งอื่นมาให้หมูกิน ใช้ทำความสะอาด
และหล่อเลี้ยงระบบทำความเย็นในโรงเรือน
เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการขาดน้ำสะอาดและอากาศร้อนจัด
“ขณะนี้หลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก
จนต้องซื้อน้ำจากภายนอกมาใช้ในฟาร์มทุกวัน ทำให้มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้นอีก
จากเดิมต้นทุนการใช้น้ำอยู่ที่ 30 บาทต่อตัว เพิ่มเป็น 300-600 บาทต่อหมูขุน 1 ตัว หรือ 3-6
บาทต่อหมู 1 กิโลกรัม
จากเฉลี่ยแล้วหนึ่งเที่ยวราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทต่อน้ำ 1 หมื่นลิตร สำหรับฟาร์มขนาดเล็กต้องใช้น้ำราว 2
เที่ยวต่อวัน ต้นทุนในส่วนนี้จึงเพิ่มขึ้นถึง 6,000 บาทต่อวัน
หากเป็นฟาร์มใหญ่ขาดแคลนน้ำมาก ต้นทุนก็จะสูงขึ้นมากขึ้นไปอีก
กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบกับต้นทุนการเลี้ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
นายสิทธิพันธ์ กล่าว
นอกจากนี้ฤดูร้อนยิ่งเพิ่มความเสี่ยงการเกิด
โรคกลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจและระบบสืบพันธุ์ หรือ โรค PRRS ที่ทำให้สุกรแท้งลูกในระยะท้ายของการอุ้มท้อง
ส่งผลต่อเนื่องถึงสุกรอนุบาลและสุกรขุนทำให้อัตราเสียหายเพิ่ม
และต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้น ขณะเดียวกัน
เกษตรกรทั่วประเทศยังคงเฝ้าระวังควบคุมและป้องกันโรคสำคัญในสุกรทั้ง ASF และ PRRS อย่างเข้มงวด โดยเพิ่มความเข้มข้นของระบบ Biosecurity
ในฟาร์ม และเน้นการจัดการฟาร์มที่ได้มาตรฐาน
ซึ่งจำเป็นต้องใช้ต้นทุนการป้องกันโรคเพิ่มกว่า 200-300 บาทต่อตัว
และคาดว่าต้นทุนการเลี้ยงในขณะนี้สูงกว่า
ประมาณการต้นทุนการลี้ยงสุกรขุนเฉลี่ยไตรมาส 1/2564 ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
(สศก.) ที่คาดว่าอยู่ที่ 77.49 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะที่ราคาเฉลี่ยสุกรมีชีวิตตามประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติอยู่ที่ 79-80 บาทต่อกิโลกรัม
เท่ากับเกษตรกรแทบไม่มีกำไรจากการเลี้ยง
แต่ยังจำเป็นต้องประคับประคองอาชีพเดียวเอาไว้
เพื่อให้ผู้บริโภคมีปริมาณสุกรบริโภคอย่างเพียงพอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น