“ขบวนการนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศลักลอบเข้ามาสวมเป็นหมูไทย เพื่อกระจายขายในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศนี้ กำลังสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย ทั้งในแง่เศรษฐกิจจากการนำเข้าโดยสำแดงเท็จหรือหลีกเลี่ยงภาษีอากร ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ การนำเข้าโรคระบาดสัตว์ที่อาจติดมากับสินค้าลักลอบที่ไม่ผ่านการกักตรวจโรค หากในสินค้ามีโรคปนเปื้อนย่อมทำลายภาคอุตสาหกรรมหมูอย่างย่อยยับ ขณะเดียวกันผู้เลี้ยงหมูและห่วงโซ่อุปทานจะต้องล่มสลายจากกลไกสินค้าที่ถูกบิดเบือนเพราะผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ต่างประเทศ ที่สำคัญคนไทยต้องเสี่ยงกับสารเร่งเนื้อแดงที่แถมมาด้วยโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เกษตรกรทั่วประเทศขอให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาดูแล ตรวจสอบ และปราบปรามขบวนการนี้โดยเร็ซ เพื่อไม่ให้ประชาชน ประเทศชาติ และอาชีพเลี้ยงหมูของเกษตรกรกว่า 2 แสนรายต้องพังลง” นายปรีชา กล่าว
นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัย โดยผู้เลี้ยงสุกรต่างร่วมใจกันปฏิบัติตามกฎหมายโดยคำนึงถึงผู้บริโภคปลายทาง ตลอดจนเร่งยกระดับการป้องกันโรคระบาดในสุกรเพื่อรักษาอาชีพเดียวไว้ และพัฒนากระบวนการผลิตเนื้อสุกรปลอดสาร ปลอดโรค ปลอดภัยเพื่อผู้บริโภค การปล่อยให้คนส่วนน้อยที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมาทำลายประเทศจึงไม่เป็นธรรมต่อประชาชน และเกษตรกรไทย ที่สำคัญในแง่จิตวิทยา การลักลอบดังกล่าวทำให้ไม่มีแรงจูงใจการลงทุนในประเทศ เกษตรกรไม่กล้าเสี่ยงที่จะเลี้ยงสุกรต่อ เพราะรู้ดีว่าไม่สามารถแข่งขันราคากับเนื้อสุกรต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่าได้อย่างแน่นอน เมื่อภาคผู้ผลิตสุกรถูกทำลาย ย่อมกระทบกับห่วงโซ่การผลิตต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าว ที่ราคาต้องตกต่ำจากปัญหาการนำเข้าเนื้อสุกรที่ทำลายอุตสาหกรรมเกษตรไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น