ราคาไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร
ตามประกาศของสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ ที่ปรับขึ้นฟองละ 0.20 บาท มาอยู่ที่ 2.90
บาทต่อฟองนั้น เป็นผลจากความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรม PS Support ที่ภาครัฐ โดยกรมปศุสัตว์ รับฟังเสียงเกษตรกรผู้เลี้ยง ที่ในช่วงที่ผ่านมาต้องประสบกับภาวะราคาตกต่ำ
จากปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด
แผนกิจกรรมเพื่อสร้างเสถียรภาพราคาไข่ไก่
จึงถูกขับเคลื่อนให้เดินหน้าอย่างรวดเร็ว
ด้วยการขอความร่วมมือผู้ประกอบการเลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่
ที่มีปริมาณแม่ไก่ไข่ยืนกรงขนาด 1
แสนตัวขึ้นไป ร่วมกันควบคุมการปลดแม่ไก่แก่ จากเดิมที่ต้องปลดไก่ไข่ยืนกรงที่อายุ 80 สัปดาห์ ให้ขยับเวลาปลดเร็วขึ้นที่อายุ 75 สัปดาห์
ส่วนเกษตรกรรายเล็กลงมาก็ปลดแม่ไก่ตามระยะเวลาที่กำหนดปกติที่ 80 สัปดาห์ ทำให้ปริมาณแม่ไก่ไข่ลดลง ผลผลิตไข่เข้าสู่สมดุลกับปริมาณการบริโภค
ขณะเดียวกัน ทางการได้เร่งผลักดันกิจกรรมส่งออกไข่ไก่ ตามแผน PS Support โดยให้ผู้ผลิตลูกไก่ไข่ 16 ราย
ร่วมกันส่งออกไข่ไปยังต่างประเทศ
เพื่อระบายปริมาณไข่ไก่ส่วนที่เกินจากการบริโภคภายในประเทศ จำนวนรวม 200 ล้านฟอง
พบว่าจนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ไทยสามารถส่งออกไข่ไก่ไปแล้วถึง 330 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือ 107.34 ล้านฟอง
โดยไข่ไก่ที่ส่งออกนี้ถือเป็นการเสียสละของผู้ผลิตลูกไก่ไข่ทั้ง 16 ราย ที่ช่วยกันสร้างสมดุลระหว่างปริมาณผลผลิตและการบริโภค
แม้จะต้องแบกรับภาระขาดทุนจากราคาไข่ไก่ส่งออกที่ฟองละ 1 บาท
ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงตามข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)
พุ่งสูงขึ้นไปถึงฟองละ 2.55 บาทแล้วก็ตาม
แต่ผู้ประกอบการทั้งหมดก็ยินดีช่วยกัน
เพื่อประคับประคองอุตสาหกรรมไข่ไก่ทั้งประเทศให้เดินหน้าต่อได้
ไม่ให้เกษตรกรต้องล้มหายตายจากเพราะภาวะราคาตกต่ำ ให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาไข่ไก่จะขยับขึ้นมา
แต่ก็เพียงฟองละ 0.20 บาทเท่านั้น
หากแต่เกษตรกรไม่อาจผ่านพ้นวิกฤติไปได้
เพราะยังต้องแบกรับภาระต้นทุนราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีราคาสูง
โดยเฉพาะกากถั่วเหลืองและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญ
โดยกากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าราคาปรับเพิ่มขึ้น จากกิโลกรัมละ 15.85 บาทในสัปดาห์ก่อน เป็นกิโลกรัมละ 16.35
บาทในปัจจุบัน ส่วนราคาซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ของไทย
ราคาอยู่ที่ 8.95 บาทต่อกิโลกรัม
ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงกว่าราคาในตลาดโลก แต่เกษตรกรก็จำต้องแบกรับภาระนี้เพื่อเดินหน้าอาชีพต่อไป
วันนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงทั้งประเทศต่างให้ความร่วมมือช่วยกันแก้ไขปัญหากันเอง
ด้วยการปลดแม่ไก่แก่ยืนกรงตามกำหนดของภาครัฐ ควบคู่กับแผน PS Support ที่เร่งเดินหน้าต่อ
เพื่อไม่ให้ผู้เลี้ยงทั้งประเทศประสบภาวะขาดทุนจนต้องเลิกอาชีพ
ซึ่งจะกระทบกับอุตสาหกรรมการผลิตไข่ไก่ในภาพรวม
ขณะที่ผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆ
สามารถช่วยสนับสนุนการแก้ปัญหาและร่วมสร้างเสถียรภาพราคาไขไก่ให้กับประเทศได้
ด้วยการบริโภคไข่ให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่การบริโภคไข่ของไทย ยังอยู่เพียง 221 ฟอง/คน/ปี
ถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน อย่างเช่น ญี่ปุ่น
ไต้หวัน จีน ที่บริโภคเฉลี่ยสูงถึง 300 ฟอง/คน/ปี
หรือมากกว่านั้น
แค่เพียงทานไข่ไก่คนละ 1 ฟองต่อวัน
นอกจากจะช่วยกระตุ้นปริมาณการบริโภคของทั้งประเทศให้เพิ่มขึ้น
และสามารถช่วยเกษตรกรได้เดินหน้าอาชีพต่อแล้ว ยังได้สุขภาพดีจากการบริโภคไข่ไก่
โปรตีนคุณภาพเยี่ยม ที่ราคาถูกที่สุด... วันนี้คุณทานไข่แล้วหรือยัง
โดย : นางสาวรัชนีวรรณ สุขสำราญ นักวิชาการด้านปศุสัตว์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น