องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย
(อ.ส.ค.) ผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์นมตราไทย-เดนมาร์คหรือนมวัวแดง
เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์
มีบทบาทในการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมและพัฒนาอุตสาหกรรมนมในประเทศไทย และทำหน้าที่วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นมเพื่อรองรับน้ำนมดิบของเกษตรกร
ซึ่งนอกเหนือจากบทบาทดังกล่าวแล้ว อ.ส.ค. ยังมีนโยบายสำคัญด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
(CSR)
และกิจกรรมเสริมสร้างสังคมเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาสู่ความยั่งยืน
โดยดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องภายใต้กิจกรรมที่หลากกลาย โดยหนึ่งในกิจกรรม
CSRที่สำคัญคือการจัดทำ”โครงการแบ่งฝัน ปันรักกับนมไทย-เดนมาร์ค” ซึ่งปีนี้ได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5
นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ
ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) กล่าวว่า ปัจจุบันอ.ส.ค.ได้ให้ความสำคัญในรณรงค์ส่งเสริมให้เด็กไทยหันมาบริโภคนมโคสดแท้100%ไม่ผสมนมผงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กไทยได้รับสารอาหารที่เพียงพอและได้ดื่มนมที่มีคุณภาพ
นำไปสู่พัฒนาการที่แข็งแรงสมวัยช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคประกอบกับ อ.ส.ค.
มีนโยบายให้ความสำคัญในการต่อยอด
เพื้อก้าวไปสู่การเป็นองค์การด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีการพัฒนาองค์กรที่ยั่งยืนและมีการตอบแทนต่อสังคมอย่างต่อเนื่องด้วยการวางแนวทางการดำเนินงานด้าน
CSR (Corporate Social
Responsibility) ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดทำโครงการ "แบ่งฝันปันรักกับนมไทย-เดนมาร์ค
” ขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 ที่สถาบันสุขภาพเด็กเเห่งชาติมหาราชินี กรุงเทพหรือโรงพยาบาลเด็กเป็นแห่งแรก
ภายใต้แคมเปญการรณรงค์เด็กไทยดื่มนมโคสดแท้100% ไม่ผสมนมผง
เพื่อรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการของนมโคสดแท้และต้องการมอบสุขภาพที่ดีให้กับเยาวชนไทย จากนั้นก็จัดต่อเนื่องเรื่อยมาจนปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่
5 ส่วนปี 2563 นี้ได้นำคณะสื่อมวลชนร่วมทำกิจกรรมดังกล่าว ณ โรงเรียนผ่านศึกสงเคราะห์ อ.ปากช่อง
จ.นครราชสีมา
โดยทำกิจกรรมปลูกต้นไม้รักษ์โลกร่วมกับนักเรียนพร้อมมอบผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คให้กับโรงเรียนเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับนักเรียน
โครงการ “แบ่งฝันปันรักกับนมไทย-เดนมาร์ค” นับเป็นกิจกรรมที่สำคัญของ
อ.ส.ค. ที่ต้องการต่อยอดกลยุทธ์ทางด้านการตลาดควบคู่กับการเป็นองค์กรนำที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและ
สิ่งแวดล้อมขององค์กร ซึ่งนอกจากมอบผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คแก่โรงเรียนแล้วยังร่วมมือกับนักเรียนในการปลูกต้นไม้บริเวณโรงเรียนอีกด้วย
เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม และยังเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล
มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กรและมุ่งพัฒนาธุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ซึ่ง อ.ส.ค.
เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีบทบาทหลักในการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมและพัฒนาอุตสาหกรรมนมไทย
ที่ให้ความสำคัญและยึดมั่นในการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวอย่างเข้มแข็งและจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป”
นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวย้ำอีกถึงประโยชน์ของการดื่มนมโคสดแท้
100% ไม่ผสมนมผงด้วยว่า กรรมวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์ของนมไทย-เดนมาร์ค
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการไม่มีการเติมแต่ง สารสังเคราะห์ใดๆ
ยกเว้นการเติมสารอาหารหรือแต่งกลิ่นและสี
โดยผ่านกระบวนการความร้อนตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
โดยในน้ำนมมีสารอาหารครบ 5
หมู่จึงช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายทำให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคแก่ทุกเพศทุกวัย
โดยปัจจุบันคนไทยยังดื่มนมน้อยมากต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล
ซึ่งตามสัดส่วนแล้ว
เด็ก (อายุ 1-12 ปี) ควรดื่มนม 3 แก้วต่อวัน แต่ถ้าเป็นวัยหนุ่มสาว (13-25 ปี)
ควรดื่มนมวันละ 3-4 แก้ว ส่วนผู้ใหญ่ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวัยละ
2 แก้ว
หรือโดยเฉลี่ยแล้วทุกคนควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวันละ 2 แก้ว
ปัจจุบัน อ.ส.ค.
เป็นผู้ผลิตนมไทย-เดนมาร์คที่ผลิตจากนมโคสดแท้ 100%ไม่ผสมนมผง
โดยใช้น้ำนมโคสดจากฟาร์มเกษตรไทยในประเทศทั้งหมด
มาผลิตด้วยระบบมาตรฐานที่ผ่านการรับรองในระดับสากลและถือเป็นเจ้าแรกที่ไม่ใช้นมผงทั้งนี้
การดื่มนมโคสดแท้ 100%
นอกจากได้สารอาหารครบถ้วนที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและร่างกายแล้ว
ยังเป็นการช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและสานต่อโคนมอาชีพพระราชทานในประเทศให้มีอาชีพที่มั่นคงยั่งยืนอีกทางหนึ่งด้วย
โดย อ.ส.ค. จะทำการรณรงค์โดยผ่านกิจกรรมCSR อย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยมีร่างกายแข็งแรงสมส่วนตามมาตรฐานสากลต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น