วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

กรมหม่อนไหมจับมือกรมราชทัณฑ์หนุนสร้างอาชีพผู้ต้องขังในเรือนจำ ขยายผล “โครงการคืนคนดีสู่สังคม” ตามแนวทางพระราชดำริ


       กรมหม่อนไหมจับมืออธิบดีกรมราชทัณฑ์ เร่งขยายผลโครงการคืนคนดีสู่สังคม ตามแนวทางพระราชดำริ เดินหน้าส่งเสริมอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและทอผ้าไหมผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถาน  พร้อมตั้งเป้าปี 64 หนุนเพิ่มอีก 23 แห่งทั่วประเทศและผลักดัน โมเดลภาคเหนือครบวงจรนำร่องในพื้นที่ ลำปาง ลำพูนและเชียงใหม่ หวังสร้างรายได้มั่นคงแก่ผู้ต้องขังในอนาคต



นายปราโมทย์ ยาใจ   อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า  กรมหม่อนไหมได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์เดินหน้าเร่งขยายผลการดำเนินการส่งเสริมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหมภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคม ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยกรมหม่อนไหมได้มอบหมายให้สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯทุกเขตและศูนย์เครือข่ายทั่วประเทศ ขับเคลื่อนการดำเนินงานในพื้นที่โดยบูรณาการร่วมกับกรมราชทัณฑ์ ส่งเสริมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมครบวงจรให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถาน ตั้งแต่การปลูกหม่อน ทั้งหม่อนใบและหม่อนผลสด การเลี้ยงไหม การสาวไหม การฟอกย้อมสี การออกแบบลวดลาย การทอผ้าไหม และการแปรรูปผลิตภัณฑ์หม่อนไหมที่หลากหลาย ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี 




สำหรับผลดำเนินการล่าสุดได้ดำเนินการในเรือนจำและทัณฑสถานไปแล้ว 16 แห่ง และมีแผนดำเนินการเพิ่มเป็น 23 แห่งในปี2564 ในส่วนของภาคเหนือจังหวัดลำปาง ลำพูนและเชียงใหม่ได้นำร่องจัดทำโมเดลภาคเหนือครบวงจร โดยเริ่มจากกระบวนการต้นน้ำ ดำเนินการโดยทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง คือ การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สาวเส้นไหม และเป็นศูนย์กลางกระจายเส้นไหมไปยังเรือนจำอื่นๆ ถัดมาคือกระบวนการกลางน้ำ ดำเนินการโดยเรือนจำจังหวัดลำพูน มีการจัดทำจุดเรียนรู้ด้านหม่อนไหม และฝึกอบรมทอผ้าไหมยกดอกลำพูนเพื่อให้ได้ 2 มาตรฐานได้แก่ ตรานกยูงพระราชทาน และ GI ผ้าไหมยกดอกลำพูน และสุดท้ายคือกระบวนการปลายน้ำ ดำเนินการโดยทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ มีการทอผ้าไหมยกดอกลำพูนให้ได้มาตรฐานตรานกยูงพระราชทาน การออกแบบ/พัฒนาลวดลายผ้า และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าไหมรูปแบบต่างๆให้เหมาะสมกับตลาด ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาสามารถผลิตผ้าไหมและได้รับการรับรองมาตรฐานตรานกยูงพระราชทานสีน้ําเงิน จำนวน 680 เมตร อีกทั้งในอนาคตจะมีแผนส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์หม่อนไหม เช่น ชาใบหม่อน น้ำมัลเบอร์รี่ สบู่โปรตีนไหม และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ตามศักยภาพพื้นที่ต่อไป



ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์  กล่าวว่า    กรมราชทัณฑ์ มีความพร้อมทั้งด้านกายภาพ ภูมิศาสตร์ และประชากรศาสตร์ โดยมีผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานจำนวน 143 แห่งทั่วประเทศ ที่พร้อมรับการฝึกอบรม โดยการสนับสนุนจากกรมหม่อนไหมในพื้นที่ ดำเนินการอบรม ให้คำแนะนำปรึกษาการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแก่ผู้ต้องขัง เมื่อหลังพ้นโทษไปแล้ว ผู้ต้องขังเหล่านี้ จะสามารถนำความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้รับ ไปพัฒนาต่อยอดเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว สามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างปกติสุข โดยไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก ตลอดจนเป็นการการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืนต่อไป

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวก.หนุนงานวิจัย “ไข่ผำ”...ขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต

  สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. เดินหน้าพัฒนางานวิจัย      ขานรับนโยบาย รัฐบาล สร้างนวัตกรรมอาหารอนาคต ปฏิรูปภาค...