บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด
(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมมือกับ กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ในเครือซีพี
หรือ (เอฟไอที)
ชวนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดไทยเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ยั่งยืน
ปลูกแบบใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมลงทะเบียนการเพาะปลูกในระบบตรวจสอบย้อนกลับแหล่งปลูกข้าวโพด
เพื่อร่วมแสดงความมุ่งมั่นปลูกพืชด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ลดฝุ่นละออง
นายไพศาล เครือวงศ์วานิช
รองประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ในเครือซีพี (เอฟไอที)
ผู้จัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตรให้ซีพีเอฟ กล่าวว่า
ในการจัดซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ทางกลุ่มฯได้ดำเนินการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตามนโยบายการจัดหายั่งยืนของซีพีเอฟ
ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อม
โดยสร้างความร่วมมือกับเกษตรกร ในการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งผลิตได้
100%
สามารถระบุได้ว่ามาจากแหล่งปลูกมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า
และปลอดการเผา
ทั้งนี้ ในฤดูกาลปลูกปี 2564 นี้
ขอความร่วมมือจากเกษตรกรผู้ปลูกลงทะเบียนการปลูกในระบบตรวจสอบย้อนกลับผ่านทางเว็บไซต์
https://traceability.fit-cpgroup.com/ หรือผู้รวบรวมในพื้นที่
เพื่อช่วยเกษตรกรมั่นใจเรื่องช่องทางการตลาดในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
และส่งเสริมการผลิตข้าวโพดที่มาจากแหล่งปลูกไม่บุกรุกพื้นที่ป่า และปลอดการเผา
"การลงทะเบียนการปลูกในระบบการตรวจสอบย้อนกลับของ
กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ในเครือซีพี หรือ เอฟไอที
จะช่วยให้เกษตรกรมั่นใจเรื่องการมีตลาดรับซื้อผลผลิตในช่วงเก็บเกี่ยวที่แน่นอน
ช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ปลูกจำหน่ายผลผลิตในราคารับซื้อที่โปร่งใส
มีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกษตรกรใส่ใจในกระบวนการปลูกและเก็บเกี่ยวที่ช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับห่วงโซ่การจัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์”
นายไพศาลกล่าว
ขณะเดียวกัน
ทางกลุ่มธุรกิจฯยังเดินหน้าโครงการ "เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน"
ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6
โดยในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทฯ
เน้นการถ่ายทอดความรู้ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อช่วยสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกมีความรู้ความเข้าใจวิธีการเพาะปลูกที่ดี
รวมทั้งมีข้อมูลที่ช่วยให้เกษตรกรเพิ่มผลการผลิต และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ได้แก่ ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ การวิเคราะห์ธาตุอาหารในดิน วิธีการเตรียมดิน
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว ตลอดจนส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีการปลูกที่ทันสมัย
ขณะเดียวกันยัง
รณรงค์เชิงรุกเรื่องการเพาะปลูกแบบไม่เผาตอซังอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นายไพศาลกล่าวเสริมว่า
จากการให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เกษตรกรผู้ปลูกมาอย่างต่อเนื่อง
มีส่วนสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตข้าวโพดที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดมากขึ้น
และสามารถนำผลผลิตมาจำหน่ายตรงได้ที่โรงงานอาหารสัตว์
หรือจุดรับซื้อของกลุ่มธุรกิจ เอฟไอที ที่กำหนดราคารับซื้อตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์
นอกจากนี้
ทางกลุ่มธุรกิจฯยังทำงานร่วมกับพี่น้องเกษตรกรที่ร่วมโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
และจังหวัดอุทัยธานี
พัฒนาเป็นชุมชนต้นแบบปลูกข้าวโพดยกเลิกการเผาหลังเก็บเกี่ยวให้เป็นศูนย์
โดยอาศัยเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ตรวจจับการเผาแปลงเพาะปลูกของเกษตรกร
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าตลอดห่วงโซ่อุปทานอาหารของซีพีเอฟและคู่ค้าทางธุรกิจเช่นกลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ในเครือซีพี
ปลอดการรุกป่า และการเผา ร่วมสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น