บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญกับการวิจัยพัฒนาในทุกขั้นตอนตลอดห่วงโซ่การผลิตโดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหารแทรกอยู่ในกระบวนการทำงานทุกขั้นตอนเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบโจทย์เทรนด์อาหารโลก หลังประสบความสำเร็จกับ Plant based เนื้อจากพืชที่ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง ล่าสุด เดินหน้าวิจัยขั้นสูง โดยชูแนวคิด Open Innovation พร้อมร่วมงานสถาบันวิจัย และ Start Up ทั่วโลก สร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภคทุกกลุ่ม
ดร.ลลานา ธีระนุสรณ์กิจ
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัท
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า
ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหาร หรือ CPF RD Center ทำหน้าที่สร้างสรรค์
นวัตกรรมอาหารให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม โดยการวิจัย พัฒนานั้นต้องตอบโจทย์ได้จริง
“งานวิจัยด้านอาหารต่างๆไม่ได้มุ่งเน้นเพียงเชิงศึกษาวิจัยเท่านั้นแต่ต้องต่อยอดพัฒนาในเชิงอุตสาหกรรม
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้จริงด้วย เช่นที่ CPF RD Center สร้างสรรค์นวัตกรรม Plant Based จากเทคโนโลยี PLANT-TEC
ผลิตเนื้อจากพืชในระดับอุตสาหกรรม โดยแก้ ไข Pain Point ทุกข้อจำกัด
จนเป็นที่มาของความสำเร็จในการเข้าถึงผู้บริโภคและได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง”
ดร.ลลานากล่าว
เทคโนโลยี PLANT-TEC ดังกล่าว เกิดจากความร่วมมือของ CPF
RD Center กับบริษัทด้าน Plant based ระดับโลกจากหลายประเทศ
อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐ และสิงคโปร์รวมถึงสถาบันการศึกษาของไทย อย่าง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ Plant
Based ที่มีความสมบูรณ์แบบทั้งลักษณะ รสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัส
แบบที่ผู้บริโภครับประทานแล้ว แทบไม่รู้เลยว่ากำลังทานพืชผักอยู่ ขณะเดียวกัน
ซีพีเอฟยังแก้ข้อจำกัดในด้านระดับราคาให้ลงมาอยู่ในระดับเดียวกับเนื้อปกติ
และวางจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย
นับเป็นปัจจัยที่ทำให้ Plant Based แบรนด์ MEAT ZERO ของซีพีเอฟ ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคและเชนร้านอาหารต่างๆ
ล่าสุด CPF RD Center กำลังต่อยอดศึกษาวิจัยนวัตกรรมอาหารขั้นสูง
ซึ่งเป็นอีกเทรนด์ความต้องการของโลกอนาคต ภายใต้แนวคิด Open Innovation ที่เปิดกว้างสำหรับสถาบันวิจัย ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานต่างๆ
รวมถึง Start Up ที่จะร่วมกันวิจัยพัฒนาสิ่งใหม่อย่างยั่งยืน
โดยบริษัทได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Food Valley ประเทศเนเธอร์แลนด์
ซึ่งเป็นศูนย์รวมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านนวัตกรรมอาหารนับหมื่นคน
รวมทั้งเข้าร่วมเป็นพันธมิตรด้านนวัตกรรม (Innovation Partner) ในงาน Asia-Pacific Food Agri-Food Innovation Summit ประเทศสิงคโปร์
ซึ่งได้รับความสนใจจากนวัตกรหลายประเทศเสนอตัวเข้าร่วมวิจัยกับบริษัท
ขณะเดียวกันยังให้การสนับสนุน ProVeg Food Innovation Challenge ซึ่งเป็นการแข่งขันด้านนวัตกรรมอาหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป็นต้น
เหล่านี้ทำให้ได้มาซึ่งความคิดสร้างสรรค์เกิดประโยชน์ในวงการนวัตกรรมอาหารอย่างยิ่ง
“ซีพีเอฟไม่หยุดพัฒนาเพียงเนื้อจากพืชและอาหารเพื่อสุขภาพมากมายสำหรับผู้บริโภค
แต่จะต่อยอดศึกษาวิจัยนวัตกรรมอาหารตามเทรนด์ความต้องการของโลก เพราะการวิจัยไม่มีที่สิ้นสุด
มีแต่ต้องพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเราเปิดกว้างในการร่วมวิจัยกับทุกภาคส่วน
ตามแนวคิด Open Innovation ซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่นวัตกรรมอาหารใหม่ๆ
ได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน” ดร.ลลานากล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น