วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2564

อ.ส.ค. จัดกิจกรรมเก็บเกี่ยวหญ้าหว่านเมล็ดพันธุ์พืช ในโครงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โครงการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนม


 

อ.ส.ค. จัดกิจกรรมเก็บเกี่ยวหญ้าหว่านเมล็ดพันธุ์พืช ในโครงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โครงการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนม แบบครบวงจรภาคเหนือตอนบน​ จ.ลำปาง​ มุ่งพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เตรียมใช้ประโยชน์ในที่ดินสำหรับก่อสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์

นายสุชาติ​ จริยาเลิศศักดิ์​ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค)​ กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธี เก็บเกี่ยวหญ้าหว่านเมล็ดพันธุ์พืช ในโครงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โครงการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรภาคเหนือตอนบน​ ณ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง(โครงการปลูกสร้างแปลงหญ้าอาหารสัตว์) ว่า​ตามที่ อ.ส.ค.มีแผนจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์และศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรภาคเหนือตอนบน ที่อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง  เพื่อรองรับปริมาณน้ำนมดิบ ในโซนพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ช่วยส่งเสริมพัฒนาสหกรณ์โคนม และเกษตรโคนมภาคเหนือตอนบนให้ได้แหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงานด้านกิจกรรมโคนม  เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่กลุ่มเกษตรกรโคนมนั้น แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างศึกษาโครงการและอยู่ขึ้นตอนเสนองบประมาณในการก่อสร้าง อ.ส.ค. จึงมีแนวคิดที่จะใช้ประโยชน์ในที่ดินโครงการดังกล่าวบนพื้นที่จำนวน 150 ไร่ แบ่งเป็นแปลงหญ้ารูซี่ 100 ไร่ และแปลงหญ้าแพงโกล่า 50 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งอาหารสัตว์ที่มั่นคงให้เกษตรกรในพื้นจังหวัดลำปางและใกล้เคียงเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด​  เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกรและสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมในพื้นที่จังหวัดลำปางและบริเวณจังหวัดใกล้เคียง นำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ป้อนอุตสาหกรรมโคนมในพื้นที่ภาคเหนือต่อไป  ซึ่งนอกจากเป็นการสร้างรายให้กับ อ.ส.ค. เพิ่มขึ้นแล้วยังเป็นการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน (SME) อีกทางหนึ่งด้วย โดยเฉพาะสหกรณ์โคนมในเครือข่าย อ.ส.ค.นั้น ปัจจุบันในพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีอยู่ด้วยกัน 9 แห่ง โดยแนวทางดำเนินงาน อ.ส.ค. เตรียมขอความร่วมมือไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ลำปาง กรมปศุสัตว์ในการขอสนับสนุนพันธุ์หญ้าดังกล่าวใช้สำหรับปลูกต่อไป  



นายสุชาติ ได้กล่าวต่ออีกถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์และศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร ภาคเหนือตอนบนด้วยว่า​  หากดำเนินการสร้างสำเร็จจะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมนมในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนแบบครบวงจร  เนื่องจากโรงงานดังกล่าวจะช่วยรองรับปริมาณน้ำนมดิบ และเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรโคนมในเขตภาคเหนือ ตลอดจนส่งเสริมกลุ่มสหกรณ์โคนม และกลุ่มเกษตรกรโคนม ให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากการจัดตั้งโรงงานแปรรูปน้ำนมดิบ รวมทั้งศูนย์การเรียนรู้กิจการโคนมที่ให้ประโยชน์แก่เกษตรกรแบบครบวงจร ซึ่งประกอบไปด้วยศูนย์ Feed Center แหล่งสนับสนุนอาหารโคนมในราคาต้นทุนต่ำ ศูนย์เลี้ยงโคนมทดแทน เพื่อแบ่งเบาภาระของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทดแทน มาเลี้ยงยังศูนย์แทน นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อสร้างให้คนรุ่นใหม่สานต่ออาชีพเลี้ยงโคนมของครอบครัว และ Smart Farm อีกด้วย



ด้าน นายชวลิต ขาวปลอด หัวหน้าสำนักงาน อ.ส.ค.ภาคเหนือตอนบน​  กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ​ความเป็นมาของโครงการ และการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โครงการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรภาคเหนือตอนบนด้วยว่า​ ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางและรูปแบบโครงการจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมและศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรภาคเหนือตอนบนฯ  เมื่อวันที่ กุมภาพันธ์​ 2564​ มีข้อเสนอแนะให้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ โดยในแนวทางการบริหารพื้นที่ช่วงแรกเป็นการบุกเบิกพื้นที่ เพื่อปลูกพืชอาหารสัตว์ เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดลำปาง และดำเนินการพัฒนาศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรภาคเหนือตอนบนฯ ควบคู่กันไปเพื่อเป็นการสร้างกิจกรรมในการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ โดยพื้นที่โครงการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรภาคเหนือตอนบนในพื้นที่สถานีพัฒนาที่ดินลำปาง เนื้อที่  75-3-35 ไร่ ซึ่งทำข้อตกความร่วมมือ (MOU)กับกรมพัฒนาที่ดิน และพื้นที่อ.ส.ค. เช่ากรมธนารักษ์เนื้อที่ 79 ไร่ โดยจ่ายค่าเช่าที่ดินราชพัสดุในอัตราค่าเช่าปีละ 196,569.- บาท สัญญาเช่ามีกำหนดระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ปี​ 2562 โดยพิจารณาแนวทางในการบริหารจัดการพื้นที่ในช่วงแรกเป็นการบุกเบิกพื้นที่เพื่อปลูกหญ้าพืชอาหารสัตว์ เป็นแหล่งอาหารสัตว์ของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดลำปางและใกล้เคียง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ในช่วงหน้าแล้งและมีแนวคิดที่จะรับซื้อเมล็ด/ท่อนพันธุ์หญ้าจากชมรมผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์แห่งประเทศไทย และรับซื้อปุ๋ยมูลโคจากชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคเหนือตอนบน เพื่อเป็นการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน (SME) ตามนโยบายยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560- 2580) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เพื่อสนับสนุนส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรและเชื่อมโยงเครือข่ายด้านผลผลิตทางการเกษตร และนโยบายจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจได้แจ้งความเห็นเชิงนโยบายต่อการพัฒนารัฐวิสาหกิจของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจในข้อที่ 4 รัฐวิสาหกิจควรให้การสนับสนุนส่งเสริมให้มีการใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ตามนโยบายรัฐบาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวก.หนุนงานวิจัย “ไข่ผำ”...ขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต

  สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. เดินหน้าพัฒนางานวิจัย      ขานรับนโยบาย รัฐบาล สร้างนวัตกรรมอาหารอนาคต ปฏิรูปภาค...