วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2564

ปีนี้ “ลิ้นจี่ค่อมแม่กลอง” แทงช่อสะพรั่ง ผลผลิตพร้อมออกตลาด เม.ย.นี้


             นางสาวรัชนี นาคบุตร รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 ราชบุรี (สศท.10) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ลิ้นจี่นับเป็นผลไม้ทางการเกษตร ที่มีรสชาติหวาน หอม อร่อย และมีกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เป็นที่นิยมของผู้บริโภคกันอย่างแพร่หลาย โดยจังหวัดสมุทรสงครามเป็นแหล่งผลผลิตลิ้นจี่ที่สำคัญอันดับ 1 ในภาคกลาง เกษตรกรนิยมปลูกลิ้นจี่พันธุ์ค่อม ซึ่งจากการลงพื้นที่ของ สศท.10 เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตลิ้นจี่เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา คาดว่า ในปี 2564 (ข้อมูลพยากรณ์ ณ วันที่ 22 เดือนมกราคม 2564) มีเนื้อที่ยืนต้นและเนื้อที่ให้ผล 5,194 ไร่ ลดลงจากปี 2563 ที่มีจำนวน 5,203 ไร่ (ลดลง 9 ไร่ หรือร้อยละ 0.17) เนื่องจากไม่ให้ผลผลิตทุกปีเกษตรกรจึงโค่นสวนลิ้นจี่ไปปลูกส้มโอและมะพร้าวน้ำหอมแทน ส่วนผลผลิตรวม 2,415 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีจำนวน 998 ตัน (เพิ่มขึ้น 1,417 ตัน หรือร้อยละ 41.33) เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา (ธ.ค.63 - ม.ค.64) มีอากาศหนาวเย็นนานติดต่อกันกว่า 15 วัน จึงทำให้มีโอกาสที่ลิ้นจี่จะติดผลผลิตกว่าร้อยละ 80 ซึ่งขณะนี้ผลผลิตส่วนใหญ่อยู่ในช่วงแทงช่อดอกแล้วร้อยละ 70 ของพื้นที่ ทั้งนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังฝนหลงฤดูในช่วงที่กำลังติดดอก ซึ่งอาจส่งผลต่อปริมาณผลผลิตลิ้นจี่ปีนี้ โดยผลผลิตจะเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมีนาคม พฤษภาคม 2564 และจะออกสู่ตลาดมากที่สุดในสงกรานต์เดือนเมษายน 2564 ประมาณร้อยละ 50 ของผลผลิตในจังหวัด



สำหรับความพิเศษของลิ้นจี่พันธุ์ค่อมหรือหอมลำเจียก นอกจากจะเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงดั่งราชินีผลไม้ของจังหวัดสมุทรสงครามแล้ว ยังได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ในชื่อ ลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงครามซึ่งมีจุดเด่นที่เมื่อสุกเต็มที่จะมีสีแดงเข้ม รูปร่างกลมรูปไข่หรือรูปหัวใจ เมล็ดทรงยาว เปลือกมีหนามตั้งหรือหนามแหลมห่างเสมอกันทั้งลูกและไม่เป็นกระจุก หนังตึง เปลือกบาง เนื้อหนากรอบสีขาวอมชมพูเรื่อๆ เนื้อแห้ง รสชาติหวานอมฝาด มีกลิ่นหอม โดยตามปกติลิ้นจี่สมุทรสงครามจะให้ผลผลิตปีละครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน แต่ไม่ได้ให้ผลผลิตทุกปี ซึ่งบางครั้งให้ผลผลิตปีเว้นปี บางครั้งอาจทิ้งระยะห่างนานถึง 3 ปี แล้วแต่สภาพอากาศ การที่จะให้ติดผลนั้นจะต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาต่อเนื่องกันเกิน 15-20 วัน มีอายุการเก็บเกี่ยว 120 วันจะทำให้ลิ้นจี่มีรสชาติอร่อยที่สุด




ทั้งนี้ จึงฝากถึงเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ให้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้คุณภาพ และขอเชิญชวนผู้บริโภคสนับสนุนผลผลิตลิ้นจี่ของเกษตรกรโดยตรง ซึ่งช่องทางการกระจายผลผลิตมีทั้งการจำหน่ายให้กับผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ และการจำหน่ายแบบออนไลน์โดยกลุ่มเกษตรกรเอง เพื่อกระจายผลผลิตไปยังผู้บริโภคได้รวดเร็วและมากยิ่งขึ้น สำหรับการเลือกซื้อลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงครามของแท้รสชาติอร่อยนั้น ให้ดูที่ลักษณะผลจะต้องสีแดงจัด ผลจะเป็นทรงกลมไม่มากนักจะมีเหมือนบ่าสองข้าง ผิวเปลือกด้านในสีชมพูออกแดง รสชาติอาจมีติดฝาดเล็กน้อย หากแก่จัดเต็มที่รสชาติ จะหวานไม่ติดฝาด ส่วนเปลือกหนามจะต้องไม่คมมากนัก และหนามจะไม่ถี่มาก ขั้วของลูกลิ้นจี่หากมีลูกเล็ก ๆ เป็นสีเขียวแสดงว่ายังมีติดฝาดและอมเปรี้ยวอยู่บ้าง ซึ่งหากเป็นสีแดงแปลว่ารสฝาดนั้นหมดไปแล้ว หากท่านที่สนใจข้อมูลลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สศท.10 โทร 0 3233 7951-54 หรืออีเมล zone10@oae.go.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวก.หนุนงานวิจัย “ไข่ผำ”...ขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต

  สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. เดินหน้าพัฒนางานวิจัย      ขานรับนโยบาย รัฐบาล สร้างนวัตกรรมอาหารอนาคต ปฏิรูปภาค...