จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) รอบใหม่
ซึ่งแหล่งแพร่กระจายของเชื้อโรคจากตลาดกุ้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและได้ขยายวงกว้างไปยังพื้นที่อื่น
สร้างความตื่นตระหนกให้กับพี่น้องประชาชนถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยในการบริโภคสัตว์น้ำ
กระทบต่อการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำ รวมถึงการประกอบอาชีพของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมง
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยในพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
และชาวประมง ตลอดจนผู้ประกอบการในทุกภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
จึงสั่งการให้ทุกฝ่ายเข้มงวดและเพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวัง
ตรวจเข้มการนำเข้าสินค้าเกษตรอย่างรัดกุม เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
พร้อมทั้งกำชับให้กรมประมงดูแลช่วยเหลือความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรทุกภาคการผลิตโดยเร็วที่สุด
นายมีศักดิ์
ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวนี้ ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำและการประกอบอาชีพของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
ชาวประมง และอุตสาหกรรมต่อเนื่องเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์จังหวัดสมุทรสาคร เป็นเวลาไม่น้อยกว่า
14 วัน
ซึ่งจังหวัดสมุทรสาครเป็นแหล่งการค้าสินค้าประมงที่สำคัญของประเทศ
ครอบคลุมทั้งตลาดกลางและกิจการห้องเย็นที่กระจายสินค้าจำหน่ายเข้าสู่ตลาดภายในประเทศและการส่งออก
โดยเฉพาะสินค้ากุ้งทะเล ที่เป็นสินค้าหลักของหมวดสินค้าประมง ซึ่งปกติปริมาณผลผลิตจากฟาร์มเกษตรกร ผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลมาจากพื้นที่อนุญาตให้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลทั่วประเทศ
จะถูกจำหน่ายไปยัง 2 ส่วน คือ (1)โรงงานแปรรูป
(ร้อยละ 80) ปัจจุบันยังไม่ได้รับผลกระทบ และ (2) การเข้าสู่การซื้อขายที่ตลาดภายในประเทศ โดยเฉพาะตลาดที่มหาชัย
จังหวัดสมุทรสาคร (ร้อยละ 20) ซึ่งจากการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตกุ้งทะเล รวม 2 เดือน
ตั้งแต่มกราคม - กุมภาพันธ์ 2564
มีปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดอีกราว 33,000 ตัน นอกจากนี้ ในส่วนของกุ้งก้ามกราม
ยังได้มีการคาดการณ์ตัวเลขผลผลิตในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งจะมีปริมาณอีกกว่า 8,000 ตัน ดังนั้น
กรมประมงจะต้องเร่งดำเนินการมาตรการเร่งด่วนเพื่อระบายสินค้าทั้ง 2 ชนิด
ออกสู่ตลาดและช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร่งด่วนเพื่อป้องกันการเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมา
โดยขณะนี้
กรมประมงได้กำหนดแนวทางในการกระจายผลผลิตกุ้งและสินค้าสัตว์น้ำ ดังนี้ 1. เปิดสถานที่ให้เกษตรกรนำกุ้งมาจำหน่ายโดยตรงแก่ผู้บริโภค
พร้อมทั้งเปิดจำหน่ายออนไลน์ผ่านทาง Fisheries Shop ของกรมประมง
2. มอบหมายให้ประมงจังหวัดทั่วประเทศ
นำผลผลิตสัตว์น้ำมาจัดจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งขณะนี้มีการนำร่องจำหน่ายกุ้งก้ามกรามในพื้นที่จังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี
ราชบุรี และกาญจนบุรีแล้ว
ซี่งมีประชาชนให้ความสนใจมาเลือกซื้อกุ้งเป็นจำนวนมาก 3. ขอความร่วมมือห้องเย็นโรงงานแปรรูปในการรับซื้อกุ้งทะเล
4.ประสานความร่วมมือกับกรมการค้าภายในนำสินค้าปลอดภัยมาจำหน่ายใน
Modern Trade ต่างๆ
เช่น บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด เพื่อกระจายสินค้า 5. ประสานความร่วมมือในการหาตลาดใหม่ๆ
ในการกระจายสินค้าสัตว์น้ำ เช่น ตลาดไท 6. ประสานความร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์กองทัพบก
(ททบ.5) ในการจำหน่ายสินค้าผ่านทาง Call Center และ เว็บไซต์ www.ohlalashopping.com
7. ประสานความร่วมมือกับกองทัพบก ในการรับซื้อกุ้ง
เพื่อนำไปเป็นอาหารให้กับกำลังพล 8. ประสานความร่วมมือกับกรมอนามัยในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
และเป็นแหล่งจำหน่ายกุ้ง
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในการช่วยกระจายกุ้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอีกด้วย
อาทิ สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศิลปินดารา ฯลฯ โดยเมื่อวันที่
29 ธันวาคม 2563
กรมประมงได้มีการประชุมหารือร่วมกับตลาดไท นำโดยนายโอฬาร พิทักษ์ ที่ปรึกษาตลาดไท
และ นายโชคชัย คลศรีชัย กรรมการผู้จัดการฯ
เพื่อเตรียมหาตลาดอาหารทะเลแหล่งใหม่รองรับและกระจายสินค้าสัตว์น้ำ
โดยจะมีการพัฒนาพื้นที่กว่า 2,300 ตารางเมตร
เปิดให้เป็นโซนจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำ
ปลอดภัยช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำในภาวะวิกฤต COVID-19 ซึ่งจะเปิดให้เกษตรกรที่เดือดร้อนไม่มีช่องทางการขายสินค้ามาจำหน่ายได้
โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นเกษตรกรที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP จากกรมประมง ส่วนสถานที่ทางตลาดไท ได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งในเรื่องของการเฝ้าระวังตรวจวัดอุณหภูมิให้กับทั้งค้าและผู้ขายในทุกจุดทั่วตลาดไท
และยังมีการสุ่มตรวจ SWAP กับผู้ค้าในพื้นที่ ตลอดจน
การหยุดการจำหน่ายสินค้าที่มาจากพื้นที่เสี่ยง
เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอีกด้วย ซึ่งกรมประมง
คาดว่าจะเริ่มดำเนินการกระจายและจำหน่ายสินค้ากุ้งและสัตว์น้ำอื่นๆ
ได้ภายในเดือนมกราคม 2564
และในอนาคตจะร่วมกันพัฒนาให้เป็นตลาดสัตว์น้ำยุคใหม่
ตลาดกลางสินค้าสัตว์น้ำที่ได้มาตรฐาน ถูกสุขอนามัย สินค้าคุณภาพปลอดภัย
เกษตรกรจำหน่ายเอง ซึ่งเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้สามารถเข้าสู่กลไกการค้าได้โดยตรง
ลดการพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง และผู้บริโภคก็ได้สินค้าดีราคาเหมาะสมด้วย
สำหรับสถานการณ์ความตื่นตระหนกต่อการบริโภคกุ้งในขณะนี้
กรมประมงเชื่อมั่นว่าคลายลงแล้ว
และประชาชนผู้บริโภครับรู้รับทราบถึงข้อมูลที่ถูกต้องว่า กุ้ง และ สินค้าสัตว์น้ำ
ไม่ได้เป็นพาหะของโรคโควิด-19 อย่างแน่นอน แต่การปนเปื้อนของเชื้อไวรัสนั้น
อาจเกิดขึ้นได้จากการขาดสุขอนามัยที่ดี
ดังนั้น
เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการรับประทานและสัมผัสสัตว์น้ำ
จึงขอให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและผ่านการผลิตที่มีมาตรฐาน
เน้นให้ความใส่ใจในเรื่องสุขอนามัยเป็นสำคัญ
โดยไม่ควรรับประทานอาหารสัตว์น้ำที่ดิบหรือไม่สุก
และไม่ควรใช้มือสัมผัสกับสัตว์น้ำโดยตรง อาจใช้ถุงมือหรืออุปกรณ์ในการหยิบหรือตัก
และล้างทำความสะอาดสัตว์น้ำเป็นอย่างดีก่อนทำการปรุงอาหารทุกครั้ง และดูแลตัวเองให้ดี
ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
แล้วเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน...อธิบดีกรมประมง กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น