กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งขยายซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์กระจายทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
หวังกระจายสินค้าดีมีคุณภาพสู่ผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์โควิด – 19 ระบาด เน้นสินค้าหลักข้าวสาร นม ไข่ไก่
อาหารแปรรูป และพืชผักผลไม้ที่สดสะอาด ปลอดภัย
ขณะนี้มีซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์แล้ว 94 แห่ง
เพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบสหกรณ์กว่า 86 ล้านบาท
และเกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างสหกรณ์ผู้ผลิตสินค้ากับสหกรณ์ผู้จำหน่ายปลายทาง
170 แห่ง พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าจากซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ผ่านระบบออนไลน์
คาดในปี 64 นี้ จะมีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการเพิ่มอีก 157 แห่งทั่วประเทศ
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของโครงการซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ ว่า
เป็นนโยบายที่นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ต้องการสนับสนุนเกษตรกรให้มีแหล่งจำหน่ายผลผลิตพืชผักที่สดสะอาด ปลอดภัย
รวมถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ผลิตในชุมชน
โดยผลักดันให้สหกรณ์การเกษตรหรือสหกรณ์ร้านค้าในแต่ละจังหวัดเข้าร่วมโครงการซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์
จัดมุมจำหน่ายสินค้าและผลผลิตที่รับซื้อจากสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่วางจำหน่าย
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา
มีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ 94 แห่ง
ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์อย่างน้อย 1
แห่ง
กรมฯได้ประสานกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาให้คำแนะนำด้านการดำเนินธุรกิจ
อบรมความรู้การคัดสรรสินค้าและผลผลิตที่จะนำมาวางจำหน่าย วิธีการจัดวางสินค้า
และพัฒนาการให้บริการ
และเกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างสหกรณ์ผู้ผลิตสินค้ากับสหกรณ์ผู้จำหน่ายปลายทาง
170 แห่ง ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบสหกรณ์เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา
กว่า 86 ล้านบาท
“กรมส่งเสริมสหกรณ์พยายามผลักดันให้มีซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์กระจายไปในทุกจังหวัด
เพื่อเป็นจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรของสหกรณ์ที่มีคุณภาพ โดยจะนำสินค้าของเกษตรกร ทั้ง
ข้าวสาร นม ไข่ไก่ ผลไม้ อาหารแปรรูป พืชผักปลอดสารพิษ ส่งมาจำหน่ายให้ผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่
เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด
– 19 ขณะนี้
จะขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าจากซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าและผลผลิตที่มีคุณภาพของสมาชิกสหกรณ์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก
สนับสนุนให้ประชาชนได้เข้าถึงสินค้าเกษตรที่มีความสดสะอาดปลอดภัยได้ในราคาที่ธรรมอย่างทั่วถึง และสอดรับกับนโยบายการตลาดนำการผลิต
โดยดำเนินการผ่านเครือข่ายและความร่วมมือกันระหว่างสหกรณ์ผู้ผลิตกับสหกรณ์ปลายทาง
ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนและเพิ่มช่องทางกระจายผลผลิตการเกษตรที่มีคุณภาพในแต่ละภูมิภาคได้มากยิ่งขึ้น และในปี 2564 นี้คาดว่าจะมีร้านค้าสหกรณ์สมัครเข้าร่วมโครงการนี้อีกกว่า 157 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ตั้งอยู่ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น