กรมส่งเสริมการเกษตร
เปิดวิเคราะห์และรับรองคุณภาพน้ำผึ้งที่ได้มาตรฐาน
ให้เป็นที่น่าเชื่อถือของผู้บริโภค พร้อมสนับสนุนพัฒนาพันธุ์และผลผลิตแปรรูปต่างๆ
เพื่อเพิ่มมูลค่า พร้อมเชื่อมโยงเข้าสู่ตลาดออนไลน์ เพื่อให้เกษตรกรส่งสินค้าที่มีคุณภาพถึงมือผู้บริโภคโดยตรง
นายทวี มาสขาว
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเป็นประเทศ
มีการเลี้ยงผึ้งในระดับอุตสาหกรรม ผลิตน้ำผึ้งมากเป็นอันดับที่ 36 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน
มีการส่งออกน้ำผึ้งไปยังประเทศต่างๆ เช่น ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย แคนาดา
และจีน มูลค่า 616.59 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีผลพลอยได้จากการผลิตไขผึ้ง เกสร และนมผึ้ง อีกด้วย
ถือว่าผลิตผลหลักจากอุตสาหกรรมการเลี้ยงผึ้งมีการขยายตัวอย่างกว้างขวาง
มีการส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาพันธุ์และนำผลผลิตมาแปรรูปในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่า
ทำให้มีการเลี้ยงผึ้งในหมู่เกษตรกรอย่างกว้างขวาง
กรมส่งเสริมการเกษตรโดย
ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านแมลงเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่
เป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งและแมลงช่วยผสมเกสร
ในการผลิตพืชผลทางการเกษตรที่ปลอดภัยจากสารเคมี และส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งและแมลงอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ยังเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ
เปิดให้เกษตรกรรายย่อยมาตรวจสอบวิเคราะห์และรับรองคุณภาพน้ำผึ้งโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์ใดๆ
น้ำผึ้งที่ได้มาตรฐานจะมีตรารับรองให้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภค
เพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางการตลาด และพร้อมในการเชื่อมโยงเข้าสู่ตลาดออนไลน์
เกษตรกรสามารถส่งสินค้าที่มีคุณภาพถึงมือผู้บริโภค
และได้รับความอนุเคราะห์เครื่องมือ จากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพจังหวัดขอนแก่น
ได้ผู้เชี่ยวชาญ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพื้นที่ลำปาง
และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ช่วยวางระบบอุปกรณ์และวิธีการวิเคราะห์ให้
โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการเกษตร
การดำเนินการของศูนย์ผึ้งฯดังกล่าว ทั้งยังมีการประกวดคุณภาพและบรรจุภัณฑ์น้ำผึ้ง
เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสินค้า โดยได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งเป็นอย่างดี
เป็นการช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งให้ได้รับการพัฒนาในทุกมิติ
และเกิดความยั่งยืนในอนาคต
โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดทำโครงการส่งเสริมตลาดเกษตร online ช่วยเป็นสื่อกลางในการนำสินค้าเกษตรคุณภาพดี
จากกลุ่มเกษตรกร จากทั่วประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากผึ้ง
ให้ถึงมือผู้บริโภคในรูปแบบของเว็บไซต์ สามารถเข้าไปที่ www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com
ขอบคุณข้อมูล
กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการเกษตร : พฤษภาคม 2563
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น