กรมประมง จัดทำ 3
โครงการเพาะเลี้ยงปลิงทะเลขยายผลสู่เกษตรกร พร้อมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
หวังส่งเสริมให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ของไทย
เผย...ปัจจุบันราคาซื้อขายสูงถึงกิโลกรัมละ 3,000 – 7,000
บาท หวั่นถูกจับจนเกินธรรมชาติเกิดทดแทนได้ทัน จึงเร่งปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
นายถาวร จิระโสภณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า
ปัจจุบันมีการนำปลิงทะเลขึ้นมาใช้ประโยชน์เพื่อการบริโภค
เพราะปลิงทะเลจัดเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง
จึงนิยมนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยาและอาหารเสริม ซึ่งในประเทศมีการจับปลิงทะเลขึ้นมาใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมาก
ทั้งเพื่อการบริโภคภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ เป็นที่ต้องการของตลาด
โดยราคาขายปลิงทะเลสดจากชาวประมง ถ้าเป็นแบบสด จะขายอยู่ที่ ราคา 300 – 500 บาท/กิโลกรัม ส่วนแบบตากแห้ง ราคาจะยิ่งสูงขึ้นไปถึง 3,000 – 7,000 บาท/กิโลกรัม ซึ่งเป็นเหตุให้ปลิงทะเลถูกจับขึ้นมาจำนวนมากจนไม่สามารถเกิดทดแทนได้ทัน
ด้วยเหตุนี้ กรมประมงจึงมุ่งที่จะผลักดันให้ปลิงทะเลเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย
ทั้งนี้
กรมประมง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์
ได้เคยมีการศึกษาการเพาะพันธุ์ปลิงทะเล ชนิด H.scabra จนสำเร็จในปี
2551
และต่อมามีการศึกษาพัฒนาเทคนิคการอนุบาลลูกปลิงทะเลอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มอัตราการรอด
และเพิ่มผลผลิตเพื่อนำปล่อยคืนสู่ธรรมชาติและทดลองเลี้ยงในบ่อดินเพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่
และได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
จัดทำโครงการเกี่ยวกับปลิงทะเล จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
โครงการการพัฒนาระบบการเพาะเลี้ยงปลิงทะเล (Holothuria scabra, jaeger 1833) และการเพิ่มผลผลิตในการเพาะเลี้ยงโดยใช้ฮอร์โมนควบคุมการพัฒนาต่อมเพศและการผลิตเซลล์สืบพันธุ์
ซึ่งโครงการนี้ใช้เวลาดำเนินการถึง 3 ปี (พ.ศ.2556 – 2559)
จึงประสบความสำเร็จได้เทคนิคในการเพาะพันธุ์และอนุบาลลูกปลิงทะเลระยะต่างๆ
รู้ถึงข้อมูลเบื้องต้นในการเลี้ยงปลิงทะเล ลักษณะทางกายวิภาคศาสตร์ของปลิงทะเล
ข้อมูลระบบการสืบพันธุ์ การพัฒนาเซลล์สืบพันธุ์
และได้ชนิดใช้ฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ในปลิงทะเล หลังจากนั้น ในปี พ.ศ.2562 (วันที่ 2 มกราคม
2562 – 1 มกราคม 2563 : ระยะเวลา 1 ปี)
จึงได้มีโครงการการพัฒนาต่อยอดการเพาะเลี้ยงปลิงทะเล Holothuria scabra เชิงพาณิชย์
จนกระทั่งได้เทคนิคการขุนเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลิงทะเลในที่กักขัง
ได้ข้อมูลการพัฒนาเซลล์สืบพันธุ์ของปลิงทะเลที่รวบรวมจากแหล่งธรรมชาติสามารถกำหนดช่วงฤดูกาลที่เหมาะสมในการเก็บรวบรวมพ่อแม่พันธุ์นำมาเพาะพันธุ์
ได้เทคนิคการอนุบาลลูกปลิงทะเลให้มีอัตรารอดตายสูงขึ้น
และได้รูปแบบการเลี้ยงปลิงทะเล
และล่าสุด คือ
โครงการการเลี้ยงปลิงทะเล Holothuria scabra รูปแบบต่างๆ
เพื่อขยายผลสู่เกษตรกร มีระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
– 14 พฤษภาคม 2564 จะมุ่งเน้นการศึกษารูปแบบการเลี้ยงปลิงทะเลแบบต่างๆ
ทั้งในบ่อคอนกรีต บ่อดิน การเลี้ยงผสมผสานกับสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ
และการเลี้ยงในคอกทะเล ฯลฯ โดยจะเริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่การเพาะพันธุ์และอนุบาล
การรวบรวมและลำเลียงพ่อแม่พันธุ์ การขุนเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ การให้อาหาร
ส่วนประกอบอาหาร การสืบพันธุ์ การขยายพันธุ์
ฯลฯ ซึ่งเมื่อสิ้นสุดโครงการฯ นี้จะได้ข้อมูลในการนำไปถ่ายทอดให้กับเกษตรกรต่อไป
ทั้งนี้
กรมประมง
เชื่อมั่นว่าในอนาคตปลิงทะเลจะกลายเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจตัวใหม่ที่เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างกว้างขวางแน่นอน
ด้วยสรรพคุณทางโภชนาการ ซึ่งตอบโจทย์คนรักสุขภาพในยุคปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม
การปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
เพื่อรักษาฟื้นฟูทรัพยากรให้คงอยู่และมีใช้อย่างยั่งยืนก็เป็นหน้าที่หลักที่กรมประมงที่จะดำเนินการควบคู่กันไป....รองอธิบดีฯ
กล่าว
สำหรับข้อมูลปลิงทะเล (Sandfish)
Holothuria scabra หรือที่รู้จักว่า “ปลิงขาว”
เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง อาศัยอยู่หน้าดินบริเวณแนวชายฝั่งทะเล
ประเทศไทยพบมากในแนวหญ้าทะเลชายฝั่งทะเลอันดามัน (พังงา ภูเก็ต พระบี่ ตรัง
และสตูล) เป็นสัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีน และคอลลาเจน
(คอลลาเจนมากกว่าหูฉลาม และขาไก่) และทำหน้าที่ช่วยลดสารอินทรีย์ในระบบห่วงโซ่อาหาร
โดยปลิงทะเลจะใช้หนวดจับตะกอนดินที่มีสารอินทรีย์ปะปนอยู่เข้าสู่ทางเดินอาหารแล้วดูดซับสารอินทรีย์ไว้
หลังจากนั้นจึงขับถ่ายออกมาเป็นตะกอนดินที่สะอาด
จึงนับว่ามีความสำคัญในระบบนิเวศน์ทางทะเลด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น