น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาเนื้อสุกรขายปลีกที่ปรับขึ้นจากความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลันในช่วงที่ผ่านมาซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดที่แท้จริงนั้นปัจจุบันระดับราคาเนื้อหมูตามท้องตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะการทำงานอย่างรวดเร็วและการแก้ปัญหาที่ฉับไวของกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายใน ที่ขอความร่วมมือสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติสมาคมผู้เลี้ยงสุกรและสหกรณ์ทุกภูมิภาค ตลอดจนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศในการตรึงราคาขายสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มไว้ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เนื้อหมูที่ออกจากโรงชำแหละไม่เกิน94-95 บาท และราคาหมูขายปลีกหน้าเขียงที่ผู้บริโภคจับจ่ายไม่เกิน 150-160บาทต่อกิโลกรัม
ขณะเดียวกันยังร่วมกันดำเนินกิจกรรม “เนื้อหมู...สู้โควิด” ในมหกรรมหมูธงฟ้าที่ส่งตรงเนื้อหมูคุณภาพจากฟาร์มเลี้ยงถึงมือผู้บริโภค โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางเพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชนทุกภูมิภาคทั่วไทย ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 7สิงหาคม จนถึงปัจจุบัน พบว่าผู้บริโภคตอบรับกิจกรรมนี้เป็นดี มีพี่น้องประชาชนมาร่วมจับจ่ายเนื้อหมูสดในสถานที่ราชการต่างๆตามที่พาณิชย์จังหวัดกำหนดเป็นจำนวนมาก ทำให้เนื้อหมูที่จัดเตรียมไปจำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็วในทุกๆวัน
“กิจกรรมเนื้อหมูสู้โควิดที่สมาคมฯร่วมกับเกษตรกรและพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศร่วมกันเดินสายส่งมอบเนื้อหมูปลอดภัยถึงมือประชาชน
ได้รับการตอบรับที่ดีมากและต่างเรียกร้องให้จัดกิจกรรมดีๆ เช่นนี้ต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันในห้างค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ทั้งแม็คโคร เทสโก้ โลตัส
และบิ๊กซีก็ได้ให้ความร่วมมือในการจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกพิเศษช่วยลดค่าครองชีพประชาชนด้วยทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการเลือกซื้อเนื้อหมูที่ปลอดภัย
มีคุณภาพ ในราคาเหมาะสมและยุติธรรมส่งผลให้ภาวะราคาเนื้อหมูกลับสู่ภาวะปกติ
ขอขอบคุณกรมการค้าภายใน
กระทรวงพาณิชย์ที่มองปัญหานี้อย่างรอบด้านทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและเป็นการดูแลเกษตรกรผู้เลี้ยงอย่างเข้าใจไปพร้อมๆกัน”น.สพ.วิวัฒน์ กล่าว
อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ
กล่าวอีกว่า ยังคงดำเนินกิจกรรม “เนื้อหมู...สู้โควิด”ต่อไป
โดยผู้บริโภคสามารถติดตามสถานที่จำหน่ายได้จากเว็บไซต์ของพาณิชย์จังหวัดที่สำคัญเกษตรกรผู้เลี้ยงยังคงยืนหยัดดูแลราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มไว้ไม่เกิน
80บาทต่อกิโลกรัมและยังคงร่วมกันบริหารจัดการทั้งระบบเพื่อดูแลผู้บริโภคในประเทศให้ดีที่สุด
ย้ำว่าปริมาณการผลิตหมูขุนทั้งประเทศที่5 หมื่นตัวต่อวัน
ยังคงเพียงพอกับการบริโภคของคนไทย และไม่มีปัญหาขาดแคลนสุกรอย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น