วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

แม็คโคร ผุดโมเดลเกษตรยั่งยืน หนุนผู้เลี้ยงวัวไทย ผลิตเนื้อพรีเมียม ชูจุดแข็งตลาดนำการผลิต ปรับระบบการเลี้ยง สร้างรายได้เพิ่มกว่า 2 หมื่นต่อตัว


             บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ผุดโมเดลเกษตรกรรมยั่งยืน ส่งเสริมผู้เลี้ยงโคเนื้อ ปรับวิธีเลี้ยงแบบขุน ปรับสูตรอาหารสัตว์และสภาพแวดล้อม รับความต้องการบริโภคเนื้อวัวพรีเมียมเติบโต ด้วยการเชื่อมโยงตลาดผ่านสาขาของแม็คโครสู่ผู้ประกอบการร้านอาหาร เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรมากกว่า 20,000 บาทต่อตัว พร้อมวางแผนการตลาดและพัฒนาร่วมกันอย่างต่อเนื่องภายใต้กลยุทธ์ การตลาดนำการผลิต



นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  ด้วยกระแสความนิยมบริโภคเนื้อวัวคุณภาพที่มีลายไขมันแทรก หลังจากธุรกิจร้านอาหารประเภทชาบู ปิ้งย่าง หมูกระทะ เติบโตเป็นอย่างมาก ทำให้แม็คโครมองเห็นโอกาสในการพัฒนาเนื้อวัวของไทยให้เข้าสู่ตลาดพรีเมียม โดยทำงานร่วมกับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนทั่วประเทศและกรมปศุสัตว์  ยกระดับการเลี้ยงขุนโดยให้ทานอาหารที่ปรับสูตรอย่างเหมาะสมและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ทำให้วัวมีไขมันแทรกในชั้นกล้ามเนื้อมาก ซึ่งเป็นไขมันดี มีรสชาติที่ดีเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค



แม็คโครทำงานร่วมกับเกษตรกรและกรมปศุสัตว์ อย่างสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมโคเนื้อไทยทั้งระบบ เพื่อให้เกิดรูปแบบการทำเกษตรกรรมยั่งยืน โดยแม็คโครได้นำความเชี่ยวชาญด้านการตลาด ความต้องการของผู้บริโภค ผู้ประกอบการร้านอาหาร มาพัฒนาสินค้าร่วมกันภายใต้แบรนด์ โปรบุชเชอร์ซึ่งมีกระแสการตอบรับที่ดีและได้รับการบอกต่อในโลกโซเชียลถึงรสชาติ ความนุ่ม ทำให้เนื้อพรีเมียมของไทยมีสัดส่วนการขายและอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง



ด้าน นายวิบูลย์ ไวยสุระสิงห์ เจ้าของสุระสิงห์ฟาร์ม และประธานสหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางโคเนื้อโดยรวมยังสดใส และมีทิศทางที่ดี โดยเฉพาะการนำโคเนื้อลูกผสมสายพันธุ์ยุโรปมาเข้าสู่ระบบการเลี้ยงขุนเพื่อให้มีอัตราการเจริญเติบโตในระยะเวลาที่กำหนด ให้ได้คุณภาพเนื้อที่มีความนุ่ม มีไขมันแทรก เหมาะสำหรับทำสเต็ก อาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่น ซึ่งในกลุ่มนี้ ตลาดมีความต้องการประมาณปีละ 500,000 ตัว สำหรับที่ฟาร์มสุระสิงห์ จะซื้อวัวอายุปีกว่าๆ จากเกษตรกรมาขุนต่อ และให้กินอาหารตามสูตรที่คำนวณไว้ จากนั้นจะคัดตัวเลือกวัวที่มีลักษณะดี ไปเลี้ยงต่อในโรงเรือนระบบปิด (Evaporative Cooling Systems) หรือ Evap เพื่อเลี้ยงต่ออีก 3-4 เดือน ในอุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส เพื่อให้มีน้ำหนักประมาณ 600-800 กิโลกรัมต่อตัว และทำให้เกิดรายได้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้นจากเดิมมากกว่า 20,000 บาทต่อตัว

ต้องขอขอบคุณแม็คโครที่ช่วยพลิกวิกฤติเป็นโอกาส โดยเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตในช่วงวิกฤติโควิด-19 ทำให้เกษตรกรมีรายได้ 



ทั้งนี้ แม็คโครได้ให้การสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนไทยกว่า 5,000 ครัวเรือน เพื่อพัฒนาสู่ตลาดเนื้อพรีเมียม โดยนำเนื้อโคขุนไทยแองกัส และไทยวากิว ที่มีลายไขมันแทรก (Marbling Score)  MS4+, MS5+ ซึ่งเป็นเนื้อคุณภาพดีมาจำหน่าย รองรับกระแสความนิยมในการบริโภคเนื้อวัวของคนไทยที่มีอัตราการบริโภคเฉลี่ย 2.7 กิโลกรัมต่อคนต่อปี และมีแนวโน้มการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นางศิริพร กล่าวอีกว่า ตลาดของเนื้อวัวพรีเมียมยังมีการเติบโตอีกมาก แม็คโครได้วางแผนส่งเสริมการขาย การพัฒนาต่อยอดสินค้า ร่วมกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จัดโปรโมชั่น แม็คโคร แหล่งรวมเนื้อคุณภาพ (Beef Destination)’ เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มเข้าถึงเนื้อวัวพรีเมียมคุณภาพดี มีความหลากหลาย ราคาเข้าถึงง่าย ทุกสาขาทั่วประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวก.หนุนงานวิจัย “ไข่ผำ”...ขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต

  สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. เดินหน้าพัฒนางานวิจัย      ขานรับนโยบาย รัฐบาล สร้างนวัตกรรมอาหารอนาคต ปฏิรูปภาค...