เสาวรสนับเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่หลายคนชื่นชอบและเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายในหลายพื้นที่
ในอดีตเราอาจจะคุ้นเคยกับเสาวรสสำหรับแปรรูปเพื่อทำน้ำผลไม้
ด้วยเพราะสายพันธุ์ในอดีตมักจะมีรสชาติออกเปรี้ยว
จึงเหมาะสำหรับการนำมาแปรรูปทั้งน้ำเสาวรสเดี่ยวหรือผสมกับผลไม้ชนิดอื่น
ด้วยความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็ทำให้น้ำเสาวรสเป็นที่ชื่นชอบจนทำให้พืชชนิดนี้มีการปลูกเชิงการค้าเพื่อป้อนตลาดน้ำผลไม้อย่างเป็นล่ำเป็นสันในหลายพื้นที่
นอกจากความอร่อยแล้วเสาวรสยังนับเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
เพราะเสาวรสอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุรวมอยู่หลายชนิด ทั้ง วิตามินซี วิตามินเอ
วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 กรดโฟลิก ธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส
ธาตุโพแทสเซียม ธาตุสังกะสี และคาร์โบไฮเดรต
โดยยังมีของแถมนั่นก็คือใยอาหารในปริมาณสูงรวมอยู่ด้วย
สรรพคุณที่โดดเด่นของเสาวรสก็คือ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง บำรุงสายตา
ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกเสื่อมและกระดูกหัก ลดไขมันในเลือด
ช่วยรักษาอาการหอบหืด และประโยชน์อีกมากมาย
จึงเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่ชาวโลกยอมรับและนิยมบริโภค
สำหรับเสาวรสทานผลสด
ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ เช่น มูลนิธิโครงการหลวงและกรมวิชาการเกษตร
ได้มีการพยายามวิจัยหาพันธุ์เสาวรสสำหรับรับประทานสดโดยเฉพาะ
โดยได้นำเสาวรสสายพันธุ์จากประเทศต่าง ๆ เช่น ออสเตรเลียและไต้หวัน
มาปลูกทดสอบในสถานีต่างๆ
เพื่อหาสายพันธุ์เสาวรสที่มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับทานสดและแปรรูปได้ด้วย
เสาวรสทานผลสดและแปรรูปพันธุ์ยอดนิยมที่เรารู้จักกันดี ก็คือ ไทนุง เสาวรสผลสีม่วง
สวย รสชาติหวาน อร่อย ปลูกง่าย ให้ผลผลิตดก
จนทำให้พันธุ์นี้ได้รับความนิยมและขยายพื้นที่ปลูกอย่างกว้างขวาง
วันนี้เรามีเสาวรสพันธุ์ใหม่ที่มีความโดดเด่นรอบด้าน
ทั้งรสชาติที่หวาน อร่อย ละมุนกว่าไทนุง ผลขนาดใหญ่ เนื้อเยอะ
สีของเปลือกออกสีชมพูอมม่วง สวยงามมาก
จึงทำให้พันธุ์นี้ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว นั่นคือ พันธุ์หม่านเทียนซิน
ซึ่งเป็นเสาวรสพันธุ์อร่อยของประเทศไต้หวัน
ที่เรานำเข้ามาปลูกในบ้านเราแล้วให้ผลผลิตได้ดี โตเร็ว ติดผลดก รสชาติอร่อย
สมกับชื่อ หม่านเทียนซิน ที่มีความหมายว่า ดาวเต็มฟ้า โดย หม่าน แปลว่า เต็ม, เทียน แปลว่า ฟ้า, ซิน แปลว่า ดาว
ซึ่งตอนนี้หม่านเทียนซินก็ออกผลดกสุกสกาวเต็มค้างเหมือนดาวเต็มฟ้า
ที่สวนสุชาดารีสอร์ท ซึ่งน่าจะเป็นสวนที่มีการปลูกเสาวรสพันธุ์นี้ไว้มากที่สุด
สวนสุชาดารีสอร์ท
ก่อนนั้นเป็นสวนเกษตรที่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีแปลงองุ่นไร้เมล็ด
กล้วยไม้ โรงเรือนปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และที่เป็นจุดเด่นของที่นี่คือ
ปลูกดอกหน้าวัวหลากหลายสายพันธุ์
ปัจจุบันสวนแห่งนี้ได้ขยับขยายเป็นธุรกิจรีสอร์ตในนาม สวนสุชาดา การ์เด้นลอดจ์
ในพื้นที่อันสวยงามที่เรียกว่าสวิตเซอร์แลนด์แดนอีสานกระนั้น
และได้เปลี่ยนจากการปลูกไม้ต่างๆ ดังที่เคยทำ มาเป็นสวนฝรั่ง
โดยเน้นสายพันธุ์หงเป่าสือที่แปลงแรกลงปลูกไปแล้วกว่า 500 ต้น
และยังมีน้อยหน่าสับปะรด เสาวรสหวานพันธุ์หม่านเทียนซิน พุทราน้ำอ้อย ทุเรียน
มัลเบอรี่ ฟิกส์ เลม่อน และที่ยังคงปลูกอยู่ตลอดก็คือผักไฮโดรโปนิกส์
คุณณัฏฐวุธ
กลางอรัญ หรือที่หลายคนในวงการเกษตรรู้จักดีในชื่อ น้าอ้วน บ้านเกษตรพอเพียง ที่ปรึกษาด้านการเกษตร ของ สุชาดารีสอร์ท ได้เล่าถึงความน่าสนใจของเสาวรสสุดแสนอร่อย
พันธุ์เด่นจากไต้หวันให้เราฟัง หม่านเทียนซิน เป็นเสาวรสพันธุ์เด่นของไต้หวัน
ทางน้าอ้วนและสวนสุชาดารีสอร์ทได้นำเข้าต้นพันธุ์เข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนเพื่อเพิ่มพื้นที่ปลูกจนน่าจะเรียกได้ว่าสวนสุชาดารีสอร์ทปลูกเสาวรสพันธุ์นี้เป็นแปลงใหญ่ที่สุด
ซึ่งนอกจากจะเก็บผลผลิตเพื่อจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่สวนแล้ว
ความสวยงามของเสาวรสพันธุ์นี้ยังทำให้ผู้มาเยือนทุกคนตื่นตากับความดกและความสวยงามอลังการของเสาวรสที่ติดผลดกพราวเต็มค้าง
เสาวรสจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับปลูกประดับทำซุ้มสำหรับแหล่งท่องเที่ยว
ร้านอาหารหรือจุดเช็คอินต่างๆ
เสาวรสเป็นพืชที่ปลูกง่าย
สามารถปลูกได้ตั้งแต่พื้นราบจนกระทั่งพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000
เมตรและพันธุ์หม่านเทียนชินก็เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมของเมืองไทย
โดยเสาวรสจะออกดอกและให้ผลผลิตเมื่อมีอายุประมาณ 4-5 เดือนหลังปลูก อายุ 5-6 เดือนเสารสจะติดดกเต็มค้างแล้ว
เสาวรสเป็นไม้ผลประเภทเถ้าเลื้อยการปลูกจึงต้องมีค้างรองรับต้นและผลผลิต
ค้างเสาวรสนั้นต้องแข็งแรงเพียงพอสามารถใช้งานได้นาน
เพราะปลูกเสาวรสครั้งหนึ่งอยู่ได้ยาวนาน 3 ปีเลยทีเดียว
ด้วยความที่หม่านเทียนซินเป็นเสาวรสที่มีรสชาติอร่อยโดดเด่นกว่าสายพันธุ์อื่นๆ
จึงเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนที่ได้ชิม ทำให้ผลผลิตแทบไม่พอจำหน่าย
โดยจะจำหน่ายให้กับคนที่มาท่องเที่ยวและแขกผู้มาเยือนเป็นหลัก
ยังไม่ได้นำไปส่งขายที่ไหน โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ กก.ละ 100 บาท
นอกจากจำหน่ายผลสดแล้ว ยังนำไปปั่นเป็นน้ำเสาวรสที่มีรสชาติอร่อยมากเพราะจะออกหวานนำเปรี้ยวนิดๆกำลังดี
ไม่เปรี้ยวจิ๊ดจ๊าดเหมือนเสาวรสคั้นน้ำที่ปลูกกัน
ไม่ต้องเติมน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลเลย จึงเป็นน้ำเสาวรสปั้นสดแบบเพียวๆ
ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางอาหารอย่างแท้จริง
นอกจากปลูกเพื่อเก็บผลผลิตเพื่อจำหน่ายแล้ว
เสาวรสยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสวนเพื่อการท่องเที่ยว
ร้านอาหารหรือจุดท่องเที่ยวต่างๆ หรือแม้กระทั่งปลูกในบ้าน
สามารถนำไปปลูกแล้วทำค้างง่ายๆได้เลย เสาวรสจะติดผลดกพราวเต็มค้างในเวลาแค่ 5-6
เดือนเท่านั้น ให้เราได้ชื่นชมความสวยงามของผลตลอดทั้งปี
สามารถนำมารับประทานเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพแบบสดๆจากต้นได้เลย
หรือถ้าจะปลูกเพื่อขายก็เหมาะอย่างยิ่ง เพราะมีผลผลิตให้เก็บขายได้ตลอดทั้งปี
ไม่ต้องขายแพงมาก กก.ละ 50-60 บาท ก็ทำเงินได้มากโขทุกวัน
ชมรมสื่อเกษตรดิจิทัลและเอสเอ็มไทย
จะพาไปชมและชิมเสาวรสหม่านเทียนซินและผลไม้อื่นๆ ถึงแปลงปลูกที่สวนสุชาดา รีสอร์ท
พร้อมกับสวนเกษตรอื่นๆ ที่น่าสนใจ ทั้ง สวนทับทิม สวนดอกไม้ สวนผักส่งแมคโคร
ใตรสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ 0897835887 (หนึ่ง) 093971456(เป้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น