น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ
เปิดเผยถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรว่า
ปริมาณการผลิตสุกรขุนของไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 55,000 ตัวต่อวัน ขณะที่การบริโภคภายในประเทศอยู่ที่ 50,000 ตัวต่อวัน การผลิตจึงเพียงพอกับการบริโภคภายในประเทศ สำหรับผลผลิตส่วนที่เกินจากการบริโภคนั้น
จะทำการส่งออกในรูปแบบสุกรขุน สุกรพันธุ์ ลูกสุกร ชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์
เพื่อนำเงินตราเข้าประเทศ ด้านสถานการณ์การบริโภคในประเทศช่วงที่ผ่านมาคึกคักขึ้น
เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่กำลังกลับมาอีกครั้ง
ผนวกกับใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุดและการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี
ขณะที่มีข่าวดีเรื่องของวัคซีนป้องกันโควิด-19
ทำให้คนไทยเริ่มออกมาใช้จ่ายรวมถึงการบริโภคที่ดีขึ้นในสินค้าทุกหมวด
ถือเป็นอานิสงส์ให้กับสินค้าปศุสัตว์ทั้งสุกรไก่เนื้อ ไข่ไก่ ที่คนหันมาบริโภคมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับสถานการณ์การผลิตที่ในบางพื้นที่พบการระบาดของโรค
PRRS นั้น
พบว่าภาครัฐโดยกรมปศุสัตว์ได้เข้าดูแลควบคุมและเฝ้าระวังโรคให้อยู่ในวงจำกัดได้ทั้งหมด
โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเกษตรกรที่แจ้งเหตุอย่างทันท่วงที
เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตามมาตรฐานด้านการควบคุมและป้องกันโรคระบาดในสัตว์
ซึ่งถือเป็นประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรมโดยรวม ขณะเดียวกัน
ยังถือเป็นความสำเร็จจากการสื่อสารในเชิงรุก
เพื่อสร้างความเข้าใจแก่สาธารณชนในเรื่องโรคในสุกรที่ไม่ติดต่อสู่คนที่กรมปศุสัตส์
ร่วมกับนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุกรและโรคสัตว์
ได้ดำเนินการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า โรคในสุกรที่เกิดขึ้น
เกิดเฉพาะในสุกรเท่านั้น ไม่สามารถแพร่เชื้อมายังคนได้
และผู้ที่บริโภคเนื้อสุกรก็ไม่มีอันตรายอย่างแน่นอน
"ขอให้พี่น้องเกษตรกรยืนหยัดในการป้องกันโรคในสุกร
ที่พวกเราร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินการอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด
จนทำให้ไทยยังเป็นประเทศเดียว ที่สามารถคงสถานะปลอดโรคในสุกรที่สำคัญ
อย่างเช่นโรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์ หรือ ASF ได้อย่างน่าภูมิใจ
ส่วนโรค PRRS นั้นก็เป็นโรคในสัตว์ที่ไม่มีการติดต่อสู่คน
ไม่ก่ออันตรายกับผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้
ทำให้การบริโภคในภาพรวมไม่ได้ลดลง
อย่างไรก็ตามการให้ข่าวของคนบางกลุ่มว่าการบริโภคลดลงนั้น
เป็นการหวังผลในเชิงจิตวิทยา เพื่อกดดันราคาหมูหน้าฟาร์มให้ถูกลง
จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรติดตามข่าวสารจากสมาคมฯ
เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงประกอบการตัดสินใจในการขายสุกรหน้าฟาร์มต่อไป"
น.สพ.วิวัฒน์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น