ม. เกษตรศาสตร์ ชูนวัตกรรมใหม่ 97 ผลงาน เปิดโซนตลาดน้ำไร้ถุงพลาสติกหูหิ้ว 100 %และรองรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งแรกมางานเกษตรแฟร์ ปี 63
ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รองอธิการบดีฝ่ายบริหารกิจการภายใน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประธาน ได้แถลงข่าวการจัดงานเกษตรแฟร์ ประจำปี 2563 ว่า ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมใหม่ เพื่อเกษตรไทยยั่งยืน” ในระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2563 ณ บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร ผลงานนวัตกรรม งานวิจัยสู่เกษตรกร และประชาชน ทั้งยังให้นิสิตและอาจารย์ได้นำหลักวิชาการในห้องเรียน มาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานนอกห้องเรียนด้วย เนื่องจากในช่วงงานเกษตรแฟร์ ปีนีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไม่ได้งดการเรียนการสอน เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของมหาวิทยาลัยในการปรับเปลี่ยน การเปิดภาคการศึกษา รวมทั้งเพื่อมิให้มีผลกระทบกับการเรียนการสอนของนิสิต จึงได้ให้จัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนตามปกติ หรือจัดการเรียนการสอนนอกชั้นเรียนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา หรือกิจกรรมอื่นใดในงานเกษตรแฟร์ ที่เกี่ยวข้องกับคณะ ภาควิชาหรือหลักสูตร (base Learning)
งานเกษตรแฟร์ เป็นกิจกรรมที่เน้นในการนำผลงานนวัตกรรมใหม่ ๆ จากงานวิจัยในสาขาต่าง ๆ มาจัดแสดงบนอาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ โดยแบ่งเป็น 10 กลุ่ม รวม 97 ผลงาน ได้แก่ กลุ่มเกษตรและการแปรรูป กลุ่มอาหาร กลุ่มเครื่องจักร เครื่องมือ กลุ่มสิ่งแวดล้อม กลุ่มสัตว์และประมง กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มผลงานที่ได้รับรางวัล กลุ่ม Smart Application กลุ่มผู้ประกอบการที่รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ และกลุ่ม Nontri ABC SERVICES เพื่อให้ประชาชนที่มาเดินเที่ยวงานได้นำความรู้กลับไปพัฒนาในการประกอบอาชีพ เช่น ลดต้นทุนการผลิต หรือนำไปพัฒนาให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ หรือนำไปต่อยอดในครัวเรือน ชุมชนต่อไป นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ตอบสนองนโยบายในการลดขยะ ดูแลเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดความตระหนักและร่วมกันดูแลเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น ทั้งรูปแบบการสร้างความร่วมมือร่วมใจในการไม่ใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว (ถุงก๊อบแก๊บ) ในโซนตลาดน้ำ เป็นโซนปลอดถุงพลาสติกหูหิ้ว 100 % ซึ่งจะอยู่บริเวณข้างหอประชุม ถนนพหลโยธิน (หอนาฬิกา) เพื่อความสะดวกในการเดินชม งานเกษตรแฟร์ให้ใช้รถสาธารณะ ซึ่งปีนี้ท่านใดที่สะดวกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือรถโดยสารสาธารณะก็จะช่วยลดฝุ่นละออง ลดมลพิษได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้มหาวิทยาลัยฯ ยังได้กำหนดจุดคัดแยกขยะจุดหลักๆ มีนิสิต จิตอาสา แนะในการทิ้งและคัดแยกขยะ และจุดทิ้งขยะย่อยๆ ที่ให้คัดแยกด้วยตนเอง ทั้งนี มหาวิทยาลัยฯ ได้จัดอบรมนิสิต เจ้าหน้าที่ในการคัดแยก การนำขยะที่คัดแยกแล้วไปทำประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ตลอดจนให้นิสิตเดินรณรงค์ภายในงานด้วย
สำหรับผลงานนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่นำมาแสดงจัดเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มเกษตรและการแปรรูป ผลงานเรื่อง “ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมเดี่ยว พันธุ์ Kwsx5901 มาจากการผสมระหว่างข้าวโพดข้าวเหนียวสายพันธุ์ 4041 และ 709 เป็นการสร้างพันธุ์ผสมเปิดที่มีฐานพันธุกรรมกว้าง แล้วสกัดสายพันธุ์อินเบรด (inbred line) , ข้าวโพดหวานสีม่วงลูกผสมเดี่ยว เคยู คอร์นเบอรี่ พันธุ์ Kspsx 5903 ซึ่งได้ปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดหวานให้มีสีม่วงที่มีสารแอนโธไซยานิน และมีปริมาณโปรตีน (ทริปโตแฟน) ในเมล็ด เพื่อเป็นข้าวโพดหวานที่มีประโยชน์ด้านสุขภาพแก่ผู้บริโภค ซึ่งทานได้ทั้งฝักสดและแปรรูปได้หลายเมนู กลุ่มอาหาร เช่น ผลิตภัณฑ์ขนมไข่ คุ๊กกี้มันสำปะหลัง คริสปิก้า :เมล็ดเงาะอบแห้งผสมคอนเฟลกเคลือบคาราเมล ข้าวหวาน ขนมหวานแนวใหม่ (พุดดิ้ง) กลุ่มเครื่องจักร เครื่องมือ ได้นำหุ่นยนต์อารักขาพืช ระบบปัญหาประดิษฐ์ของกล้องวงจรปิด เตาย่างอัจฉริยะ กลุ่มสัตว์และประมง เช่น ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมและงานหัตถกรรมจากเปลือกหอยแมลงภู่ทิ้ง เป็นต้น และยังมีผลงานของนิสิตได้นำมาจัดแสดง เช่น แปรงแชมพูอาบน้ำอเนกประสงค์สำหรับสุนัข ทรายแมวผักตบชวา ฯลฯ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิมาจัดแสดง และของกลุ่มอื่น ๆ โดยจะนำไปจัดแสดงภายในอาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม - 8 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 09.30 – 18.00 น. นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรของนิสิตนักศึกษา การสาธิต การอบรม คลินิก การประกวดทั้งสัตว์เลี้ยง ปลากัด เครื่องจักรกลเกษตร ไม้ประดับ กล้วยไม้ ผลไม้ และกิจกรรมอื่น ๆ มากมายเป็นประจำทุกปีช่วงงานเกษตรแฟร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะจัดการประชุมวิชาการ ครั้งที่ 58 ภายใต้หัวข้อการประชุม คือ “นวัตกรรมสร้างสรรค์ไทย เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งส่วนใหญ่จะจัด ณ อาคารสารนิเทศ 50 ปี และอาคารอมรภูมิรัตน์ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร และมีการประชุมบางส่วนที่อาคาร วชิรานุสรณ์ และอาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา คณะสัตวแพทยศาสตร์ เนื่องจากอาคารเรียนรวมต้อง ใช้ในการเรียนการสอน โดยมีนักวิจัย นำเสนอผลงานวิจัยภาคบรรยายจำนวน 175 เรื่อง และภาคโปสเตอร์จำนวน 109 เรื่อง รวม 284 เรื่อง ครอบคลุมทั้ง 12 สาขา
ในในโอกาสที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะครบรอบ 77 ปีแห่งการสถาปนา 2 กุมภาพันธ์ 2563 ขอเชิญนิสิตเก่า นิสิตปัจจุบัน และหน่วยงานต่าง ๆ มาร่วมพิธีวางพวงมาลา พิธีทางศาสนา นอกจากนี้ยังมีการประชุมวิชาการนานาชาติในวาระครบรอบ 77 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ KU Academic Forum : In Celebration of the 77th Anniversary of Kasetsart University หัวข้อ “Higher Education and Sustainable Development: Facing Realities and Implementing Change” ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล ชั้น 1 อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งจะมีการปาฐกถาพิเศษ และการอภิปราย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในประเด็นต่างๆ อาทิ Higher Education and Global Sustainability Challenges , Educating Global Citizens for Sustainable Development ฯลฯ
ผศ.รัชด ชมภูนิช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประธานฝ่ายตลาดนัดและสิทธิประโยชน์ กล่าวว่า ได้จัดทำสัญลักษณ์การจัดงานเกษตรแฟร์มีให้สอดคล้องเหมาะสมกับที่ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ จึงใช้สัญลักษณ์ “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว หมายถึง “น้ำ (สีฟ้า) ปลา (สีส้มและเขียวอ่อน) นา (สีเขียวเข้ม) ข้าวพืชผลและเมล็ดพันธุ์สีเหลือง” เช่นเดียวกับปี 2562 และปีต่อๆ ไป สำหรับร้านค้าได้จัดแบ่งเป็นโซนกว่า 14 โซน มีร้านค้าทั้งหมด 1,781 ร้าน แบ่งเป็นร้านค้าของพ่อค้าแม่ค้า 1,600 ร้าน ร้านค้านิสิต 170 ร้าน และร้านค้า สโมสรนิสิตอีก 11 ร้าน โดยเฉพาะโซนตลาดน้ำนนทรี ด้านหอประชุมลดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว 100 % เพื่อลดปัญหา ขยะ นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยได้จัดทำ application โดยผู้ร่วมงานสามารถสแกน QR CODE ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “Kaset Fair” และอีกช่องทางที่สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นของสำนักบริการคอมพิวเตอร์ คือ Inside KU “เกษตรแฟร์” และอีกส่วนหนึ่งยังได้จัดพิมพ์สูจิบัตรส่วนหนึ่งเพื่อให้ประชาชนที่ไม่สะดวกในการใช้โทรศัพท์มือถือ และในปีนี้นับเป็นครั้งแรก ที่ได้รับความร่วมมือจากภาคี ได้แก่ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด นำกระบอกน้ำที่ระลึกมาแจกในงานจำนวน 10,000 ใบ และยังอำนวยความสะดวกในการให้บริการจัดส่งของทั้ง 9 วันในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งก่อนบ่ายสองถึงค่ำ ๆ ของวันเดียวกัน โดยคิดราคาตามเหมากล่อง กรมราชทัณฑ์จะนำผลิตภัณฑ์ที่ทำโดยผู้ต้องขังมาจำหน่าย และสมาพันธ์เอสเอ็มอี ไทย ก็จะนำผลิตภัณฑ์ สินค้าโอทอปและ อื่น ๆ จากสมาชิกมาจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีศูนย์หนังสือ มก. นำผลิตภัณฑ์ สินค้าที่รักษ์โลก (กระบอกน้ำ กระเป๋า ปิ่นโต กล่องข้าว ฯลฯ) ศูนย์ผลิตภัณฑ์นม มก. นำผลิตภัณฑ์นม น้ำดื่มมาจำหน่าย สมาคมนิสิตเก่า มก. นำผลิตภัณฑ์สินค้ามาจำหน่ายภายในงานด้วย
รศ.ดร.อนุชัย รามวรังกูร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหารกิจการภายใน และประธานด้านการส่งเสริมและการจัดการสิ่งแวดล้อม กล่าวถึง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เห็นความสำคัญของการช่วยกันลดโลกร้อน ร่วมกันใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างง่าย ๆ และทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น ไม่ใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว นำกระบอกน้ำมา กระเป๋าผ้า กล่องใส่อาหาร ภายในงานทางมหาวิทยาลัยฯ ได้จัดจุดทิ้งขยะและคัดแยกขยะจุดใหญ่ๆ ที่มีนิสิต จิตอาสา ซึ่งได้จัดอบรมคัดแยกขยะ เพื่อให้นิสิตได้แนะนำผู้เดินชมงานได้มีการคัดแยกและทิ้งขยะถูกประเภทจำนวน 11 จุด และจุดทิ้งขยะแบบมีถังแยกประเภทอีก 7 จุดเพื่อผู้เดินชมงานได้คัดแยกขยะด้วยตนเองก่อนทิ้ง นอกจากนี้ยังมีถุง Reusable Bag จำหน่ายสำหรับผู้ที่มาเดินชมงาน เพื่อลดมลพิษ ลดปริมาณขยะ และลดการใช้ทรัพยากร เพียงสะพายถุงผ้า ถุงใช้ซ้ำ งดใช้โฟม ลดการใช้ถุงพลาสติก เพียงร่วมมือกันรักษ์สิ่งแวดล้อม โลกของเราก็จะเป็นโลกสีเขียว จึงฝากให้สื่อมวลชนกระจายข่าวผู้มาเดินชมงานอย่างน้อยสะพายกระเป๋าผ้า พกกระบอกน้ำ นำภาชนะมาจากบ้านใส่อาหารรับประทาน ทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย และยังได้ช่วยกันลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
สำหรับการจราจรนั้นทางมหาวิทยาลัยได้จัดเส้นทางหลักรถไฟฟ้าสวัสดิการบริการ 3 สาย จำนวน 21 คัน ผู้ชมมาเดินชมงานเกษตรแฟร์สามารถใช้บริการฟรี นอกจากนี้มอเตอร์ไซต์รับจ้างทางมหาวิทยาลัยจะประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจในการให้บริการประชาชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น