นายพลเชษฐ์
ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เปิดเผยว่าปัจจุบันผลผลิตโดยตรงจากอุตสาหกรรมเกษตรส่วนใหญ่ จะใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร
โดยวัตถุดิบทางการเกษตรบางส่วนจะเหลือทิ้ง ซึ่งวัตถุดิบเหล่านั้นสามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอื่นได้
เช่น ใบสับปะรด เป็นวัตถุดิบชนิดหนึ่งที่เหลือทิ้งในภาคการเกษตร ในการปลูกสับปะรดรุ่นหนึ่งจะใช้เวลาประมาณ
4 ปี หลังจากนั้นเกษตรกรจะรื้อถอนแปลงออกด้วยการถอนต้นแล้วเผาซึ่งเป็นการสร้างมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อมหรือใช้วิธีปั่นต้นแล้วตากให้แห้งและไถฝังกลบเป็นปุ๋ยทำให้ดินอุดมสมบูรณ์
โดยภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอได้นำวัตถุดิบเหลือทิ้งเหล่านี้มาทำเป็นเส้นใยธรรมชาติ
เป็นการสร้างมูลค่าให้กับใบสับปะรด
จากการสำรวจของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 จังหวัดราชบุรี (สศท.10) ในพื้นที่ตำบลหนองพันจันทร์ อำเภอบ้านคา
จังหวัดราชบุรี โดยสัมภาษณ์นายสมชาย อุไกรหงสา
ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตเส้นใยธรรมชาติบ้านคา พบว่า เกษตรกรในพื้นที่มีการร่วมกลุ่มผลิตเส้นใยธรรมชาติจากใบสับปะรดมาตั้งแต่ปี 2561 ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 22 ราย ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจฯ จะนำใบสับปะรดที่เหลือทิ้งจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ประมาณ 5,000 กก./ไร่
มาผลิตเส้นใยสับปะรด โดยจะรับซื้อใบสับปะรดจากสมาชิกกลุ่ม ในราคากิโลกรัมละ 2 บาท
จำนวน 700 – 1,000 กก./วัน จากนั้นจะนำมาคัดแยกใบ ที่มีขนาด
50 ซม. ขึ้นไป แล้วตัดแต่งส่วนโคนและปลายใบออกเพื่อนำเข้าเครื่องรีดเอากากของใบออกจนเหลือแต่เส้นใย
แล้วพักไว้ 1 คืน จึงนำมาซักน้ำเปล่าจนสะอาดนำไปตากแดดประมาณ 2 วัน
หรือตากในร่มที่มีอากาศถ่ายเทประมาณ 3 วัน
หลังจากนั้นนำมาเข้าเครื่องรีดเพื่อแยกเส้นใยอีกครั้งจะได้เส้นใยพร้อมส่งจำหน่าย ซึ่งจุดเด่นของผลผลิตอยู่ที่การเป็นเส้นใยธรรมชาติ
ปราศจากสารเคมี ไม่ใช้สารฟอกขาว ผงซักฟอก หรือเคมีอื่นๆ
สำหรับด้านการตลาด
ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 260 – 300 บาท/กก. ร้อยละ 50
ขายส่งและขายปลีกตลาดในประเทศ ได้แก่ ตลาดอุตสาหกรรมสิ่งทอ กลุ่มแม่บ้าน
และลูกค้าทั่วไป ส่วนร้อยละ 50 ส่งออกตลาดต่างประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย นอกจากนี้
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ อยู่ในช่วงของการทดลองนำเส้นใยมาทอเป็นลวดลายต่างๆ
เพื่อนำไปตัดเย็บเสื้อผ้า กระเป๋า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า
และสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนอีกด้วย
ด้านนางจินตนา ปัญจะ
ผู้อำนวยการ สศท.10 กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันกลุ่มผลิตเส้นใยธรรมชาติบ้านคา สามารถผลิตเส้นใย ได้ 300 กก./เดือน แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
ทางกลุ่มฯ จึงมีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม เพื่อให้ได้ผลผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในอนาคต
นอกจากนี้ ทางกลุ่มฯ
กำลังทดลองและพัฒนาเครื่องรีดแบบอัตโนมัติเพื่อลดปัญหาด้านแรงงานอีกด้วย
ซึ่งหากมีการขยายกำลังผลิตได้ เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มจากการขายใบสับปะรด ประมาณ 8,000 – 10,000 บาท/ไร่ ซึ่งขณะนี้
มีกลุ่มพ่อค้าและกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่สนใจเข้ามาติดต่อขอรับซื้อล่วงหน้าจำนวนหนึ่งแล้ว
ทั้งนี้
เกษตรกรหรือท่านใดที่สนใจข้อมูลการผลิตเส้นใยจากใบสับปะรด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
นายสมชาย อุไกรหงสา ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตเส้นใยธรรมชาติบ้านคา
ตำบลหนองพันจันทร์ อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี โทร. 08 9837 9257
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น