วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2562

พยากรณ์ไม้ผลตะวันออก รอบแรก สศก. คาด ให้ผลผลิต 9.9 แสนตัน


        นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง การบูรณาการจัดทำข้อมูลปริมาณการผลิตไม้ผลเอกภาพรอบที่ 1 ปี 2563 ซึ่ง สศก. ร่วมมือกับคณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคตะวันออก ประกอบด้วย สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 (สสก.3) จังหวัดระยอง สำนักงานเกษตรจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด และกลุ่มไม้ผล กรมส่งเสริมการเกษตร  พิจารณาผลพยากรณ์ไม้ผลภาคตะวันออก ครั้งที่ 1 ของสินค้า 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จันทบุรี ระยอง และตราด เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการวางแผนบริหารจัดการผลไม้ตั้งแต่ต้นฤดู

      สำหรับผลพยากรณ์ปี 2563 ครั้งที่ 1 (ข้อมูล ณ 4 ธันวาคม 2562) พบว่า เนื้อที่ยืนต้น ของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน  713,294 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีจำนวน 692,810 ไร่ (เพิ่มขึ้น 20,484 ไร่ หรือร้อยละ 2.96) โดยทุเรียน เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5.85  เงาะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.79 มังคุด ลดลงร้อยละ 0.16 และลองกอง ลดลงร้อยละ 0.17 เนื้อที่ให้ผล ทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 637,849 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีจำนวน 626,339 ไร่ (เพิ่มขึ้น 11,510 ไร่ หรือ ร้อยละ 1.84)  โดยทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.08  มังคุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.71  เงาะเพิ่มขึ้น ร้อยละ  0.92  ส่วนลองกอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.09 ผลผลิตรวม ทั้ง 4 สินค้า คาดว่าจะมีประมาณ 991,618 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีจำนวน 886,535 ตัน (เพิ่มขึ้น 105,083 ตัน หรือ ร้อยละ 11.85)  โดยผลผลิตจะออกมากช่วงปลายเดือนเมษายน ต่อเนื่องถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งคาดว่าผลผลิตรวมของทั้ง 4 สินค้าจะเพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยทุเรียน จะเพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 15.60 เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยและราคาดีต่อเนื่อง จูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษาต้นทุเรียนดี รองลงมาได้แก่ เงาะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.44  ลองกอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.10 และ มังคุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.58 ด้านผลผลิตต่อไร่ ทั้ง 4 ชนิด คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ประกอบกับในปีที่ผ่านมาไม้ผลบางชนิดไม่ติดผลหรือให้ผลผลิตน้อย ทำให้มีเวลาในการพักต้นสะสมอาหารต้นสมบูรณ์ขึ้นส่วนหนึ่ง ประกอบกับราคาผลไม้ที่อยู่ในเกณฑ์ดีในปีที่ผ่านมา  จึงจูงใจให้เกษตรกรมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดีเพื่อให้ได้ปริมาณผลผลิตที่มากขึ้น โดยเฉพาะผลผลิตต่อไร่ของทุเรียน คาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

       ด้าน นายสุชัย กิตตินันทะศิลป์ ผู้อำนวยการ สศท.6 กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ ทุเรียน ออกดอกแล้วประมาณร้อยละ 57 ผลผลิตที่ติดในช่วงแรกเป็นทุเรียนพันธุ์เบาและทุเรียนที่ใช้สารกระตุ้นการออกดอก โดยจะเป็นพันธุ์กระดุมและหมอนทอง ซึ่งบางส่วนจะทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป ส่วนผลผลิตจะออกมากช่วงเมษายนถึงพฤษภาคม เงาะ ออกดอกแล้วประมาณร้อยละ 3.55 จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตรอบแรกได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม 2563 ในพื้นที่จังหวัดระยอง มังคุด ออกดอกแล้วประมาณร้อยละ 1.40 ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะปากนกแก้ว หากมีฝนตกจะออกใบอ่อนแทนการออกดอก ทั้งนี้ สามารถเก็บผลผลิตรุ่นแรกได้ในช่วงเดือนปลายมีนาคม 2563 จะออกชุกช่วงปลายพฤษภาคม ต่อเนื่องถึงมิถุนายน 2563 ส่วนลองกอง สถานการณ์ขณะนี้ยังคาดการณ์การออกดอกไม่ชัดเจน เนื่องจากยังมีฝนประปรายในช่วงเดือนพฤศจิกายน ต้นลองกองยังไม่ขาดน้ำ ทำให้ต้น ใบ ยังไม่สลด แต่คาดจะเริ่มมองเห็นการติดดอกที่ชัดเจนขึ้นในช่วงเดือนมกราคม 2563

         อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่แปรปรวนอาจทำให้ปริมาณผลผลิตไม้ผลเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้อีก เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศในช่วงแรกของภาคตะวันออกที่มีฝนตกทิ้งช่วงไปเร็วกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งสภาพอากาศหนาวเย็น ส่งผลให้ทุเรียน มังคุด และเงาะ มีการติดดอกออกผลเร็วขึ้น และจะเริ่มเห็นพัฒนาการออกดอกได้ชัดเจนหลังกลางเดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งหลังจากนี้ สศท.6 จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะร่วมกับคณะทำงานฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เพื่อวางแผนบริหารจัดการผลไม้และรายงานผลพยากรณ์รอบสุดท้ายซึ่งเป็นข้อมูลเอกภาพให้ทราบในเดือนมีนาคม 2563 ต่อไป สำหรับท่านที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลไม้ผลภาคตะวันออกเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี โทร. 0 3835 2435 หรืออีเมล zone6@oae.go.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวก.หนุนงานวิจัย “ไข่ผำ”...ขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต

  สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. เดินหน้าพัฒนางานวิจัย      ขานรับนโยบาย รัฐบาล สร้างนวัตกรรมอาหารอนาคต ปฏิรูปภาค...