กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
จัดงาน รณรงค์การผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ วัสดุอินทรีย์ ปกป้องอนาคต ลดการเผา
ลดการชะล้างดิน ลดต้นทุน เนื่องในวันดินโลก 5 ธันวาคม 2562 ณ
วิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชน นาแปลงใหญ่ ตำบลดู่ทุ่ง
จังหวัดยโสธร เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของวันดินโลก
รู้คุณค่าของทรัพยากรดินและการจัดการวัสดุการเกษตรเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ซึ่งในวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันดินโลก
ที่ทั่วโลกต่างตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดิน ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเกษตรกรรม
ต้องร่วมกันดูแลรักษาให้สามารถใชช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
นายวราวุธ
ชูธรรมธัช
รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากนโยบาย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการทำเกษตรปลอดภัย
ลดการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี และก้าวสู่การทำเกษตรกรรมยั่งยืน ทั้งการทำเกษตรผสมผสาน
รวมไปถึงการเป็นเกษตรอินทรีย์ ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่ยังขาดความรู้เรื่องการจัดการดินปุ๋ยที่ถูกต้อง
ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร มี ศูนย์จัดการ
ดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) อำเภอละ 1 ศูนย์ รวม 882 ศูนย์ ซึ่งเป็นเครือข่ายของ
ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ที่มีอยู่ทั่วประเทศ
ปัจจุบันมีสมาชิก รวม 26,204 ราย
ที่สามารถเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนขยายผลให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ปุ๋ย
เห็นผลสำเร็จจากการส่งเสริมการใช้จริง ในพื้นที่ ศพก. และ แปลงใหญ่ ซึ่งปี 2562 สมาชิกของ ศูนย์ฯ สามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีในพืชต่างๆ ประมาณ 370 บาทต่อไร่
นายเข้มแข็ง
ยุติธรรมดำรง
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า
กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการส่งเสริมผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ รวมวัสดุอินทรีย์
ในปี 2562 เป้าหมาย 4 เพิ่ม 4 ลด ได้แก่ เพิ่มอินทรียวัตถุ เพิ่มธาตุอาหารพืช เพิ่มผลผลิต เพิ่มมูลค่าวัสดุทางการเกษตรเหลือใช้
และ ลดการเผา ลดโลกร้อน ลดการชะล้างดิน ลดต้นทุน
สามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์ ได้กว่า 1.47
ล้านตัน เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์ กว่า 9 แสนไร่
นอกจากนี้
ภายในงานยังมอบโล่เกียรติยศ ให้แก่ จังหวัดที่มีผลงานการขับเคลื่อนศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน
ดีเด่น 9 จังหวัด ได้แก่
จังหวัดสุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ตราด บึงกาฬ สุรินทร์ ตรัง กระบี่ น่าน
และพิจิตร และจังหวัดที่มีผลงานการส่งเสริมการผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์
วัสดุอินทรีย์ดีเด่น 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยโสธร
อุบลราชธานี พิษณุโลก กาฬสินธุ์ ขอนแก่น และร้อยเอ็ด
รวมถึงมีสถานีเรียนรู้สำหรับเกษตรกรที่มาร่วมงาน จำนวน 10 สถานี
เช่น สถานีปุ๋ยอินทรีย์ เครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึง แปลงสาธิตการปลูกพืชหลังนา
สาธิตการไถกลบตอซัง และหว่านปุ๋ยพืชสด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น