นายระพีภัทร์
จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า
จากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ปลานิลในบ่อดิน
ภายใต้โครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ มาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน
(ข้อมูล กรมประมง ณ 26 พฤศจิกายน 2562) พบว่า มีแปลงใหญ่ปลานิลในบ่อดินทั้งสิ้น 32
แปลง ครอบคลุม 21 จังหวัด รวมพื้นที่ 23,152 ไร่ จำนวนเกษตรกรทั้งสิ้น 2,204
ราย โดย สศก. ได้ทำการศึกษา ศักยภาพการผลิตและการตลาดสินค้าปลานิล
ในพื้นที่โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนการผลิต ประสิทธิภาพการผลิต และช่องทางตลาดของเกษตรกรเปรียบเทียบทั้งในและนอกพื้นที่โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่
ซึ่งผลการศึกษา
พบว่าเกษตรกรในโครงการแปลงใหญ่ มีต้นทุนการผลิต 34,139.67
บาท/ไร่/รุ่น ผลผลิต 1,192.07 กิโลกรัม/ไร่
ราคาที่เกษตรกรขายได้ 42.19 บาท/กก. ให้ผลตอบแทน 50,293.43 บาท/ไร่ คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 16,153.76 บาท/ไร่
หรือ 13.55 บาท/กก. ในขณะที่เกษตรกรนอกพื้นที่แปลงใหญ่ จะมีต้นทุนการผลิต
42,079.63 บาท/ไร่/รุ่น ผลผลิต 1,345.43 กิโลกรัม/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้ 41.53
บาท/กก. ให้ผลตอบแทน 55,875.71 บาท/ไร่ คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 13,796.08 บาท/ไร่ หรือ 10.25 บาท/กก.
เปรียบเทียบต้นทุนการผลิต ผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรในพื้นที่แปลงใหญ่ กับนอกพื้นที่แปลงใหญ่
รายการ
|
พื้นที่แปลงใหญ่
|
นอกพื้นที่แปลงใหญ่
|
ต้นทุน (บาท/ไร่/รุ่น)
|
34,139.67
|
42,079.63
|
ผลผลิต (กิโลกรัม/ไร่)
|
1,192.07
|
1,345.43
|
ราคาที่เกษตรกรขายได้ ณ ฟาร์ม
(บาท/กก.)
|
42.19
|
41.53
|
ผลตอบแทน (บาท/ไร่)
|
50,293.43
|
55,875.71
|
ผลตอบแทนสุทธิ (บาท/ไร่)
|
16,153.76
|
13,796.08
|
ผลตอบแทนสุทธิ (บาท/กก.)
|
13.55
|
10.25
|
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการ สศก.
กล่าวเสริมว่า จะเห็นได้ว่า ปลานิลที่ผลิตในพื้นที่ส่งเสริมการเกษตร
แบบแปลงใหญ่ มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า และมีผลตอบแทนสุทธิสูงกว่าเกษตรกรนอกพื้นที่โครงการ
จำนวน 2,357.68 บาท/ไร่ อย่างไรก็ตาม เกษตรกรทั้งในและนอกพื้นที่โครงการฯ ยังขาดการจัดสรรปัจจัยการผลิตอย่างเหมาะสม
เช่น ยังมีการปล่อยลูกพันธุ์น้อยกว่าอัตราปล่อยลูกพันธุ์ที่กรมประมงแนะนำ คือ
5,000 – 8,000 ตัวต่อไร่ และมีการใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูปปริมาณมาก
ทำให้เกษตรกรมีความสูญเปล่าจากการใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูปที่มากเกินไป
ดังนั้น เกษตรกรทั้งในและนอกพื้นที่โครงการฯ ควรเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรปัจจัยการผลิตในการเลี้ยงให้เหมาะสม
คือ อัตราการปล่อยลูกพันธุ์และปริมาณอาหารเม็ดสำเร็จรูปตามคำแนะนำจากกรมประมง และส่งเสริมกิจกรรมทางด้านการตลาดที่สนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มเพื่อนำไปสู่การแปรรูป
และมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ให้มากขึ้น ทั้งนี้
ท่านที่สนใจผลการศึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่
ส่วนวิจัยเศรษฐกิจปศุสัตว์และประมง สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โทร. 0 2561 3448 ในวันและเวลาราชการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น