งานวิจัยต้นกัญชาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนครได้รับการชื่นชมจากอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกว่ามีความสมบูรณ์สามารถนำไปผลิตยาแผนไทยได้ดี สำหรับประชาชนทั่วไป ผู้ที่จะใช้ให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นจะต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งยา ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์หรือหมอพื้นบ้าน ซึ่งการใช้ยาจะเป็นการเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ป่วยแต่ละท่าน เนื่องจากกัญชายังเป็นยาเสพติดประเภท 5 ไม่ควรจะนำไปแบ่งปันกันใช้ เพราะอาจเกิดผลเสียต่อร่างกาย รวมถึงการพกพาไปในสถานที่ต่าง ๆ จะต้องมีใบรับรองแพทย์แสดงต่อเจ้าหน้าที่กฎหมาย และห้ามนำออกนอกประเทศทุกกรณี
สืบเนื่องจากอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้เดินทางไปติดตามความก้าวหน้าในการปลูกพืชกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 โดยกัญชาสดจากการปลูกที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร นั้น พบว่า มีความสมบูรณ์และคุณภาพดี นำไปแปรรูปได้ง่าย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัชรพงษ์ อินทรวงศ์ รองอธิการบดีวิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมพืชกัญชาทางการแพทย์ว่า กัญชาของทีมงานมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีการเจริญเติบโตที่ดี มีความสูงมากกว่า 1.50 เมตร หลังย้ายปลูก 1 เดือน คิดเป็นการเติบโตด้านความสูงเฉลี่ย วันละ 3 เซนติเมตร และเริ่มบังคับให้ออกดอกโดยหยุดให้แสงเสริมด้วยแสงจากหลอด LED เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2562 ซึ่งต้นกัญชาที่ปลูกรอบแรกมีการเก็บเกี่ยวใบและก้านใบเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาเพื่อส่งมอบให้กับโรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร นำไปเป็นวัตถุดิบผลิตยาแผนไทย และในตอนนี้กัญชากำลังอยู่ในช่วงการทำดอก คาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวช่อดอกได้อีกประมาณ 4 สัปดาห์ข้างหน้า
นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า หลังจากที่ได้ทำบันทึกความร่วมมือกับหลายหน่วยงานแล้ว ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร มีความพร้อมและผลิตกัญชาจากต้นกัญชาพันธุ์ไทย ได้อย่างรวดเร็วและได้คุณภาพ
สำหรับประชาชนทั่วไป ผู้ที่จะใช้ให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นจะต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งยา ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือหมอพื้นบ้าน ซึ่งการใช้ยาจะเป็นการเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ป่วยแต่ละท่าน เนื่องจากกัญชายังเป็นยาเสพติดประเภท 5 ไม่ควรจะนำไปแบ่งปันกันใช้ เพราะอาจเกิดผลเสียต่อร่างกาย รวมถึงการพกพาไปในสถานที่ต่างๆ จะต้องมีใบรับรองแพทย์แสดงต่อเจ้าหน้าที่กฎหมาย และห้ามนำออกนอกประเทศทุกกรณี และหากมีอาการไม่สบายหรือต้องการใช้ยาขอให้เข้าไปขอรับบริการในโรงพยาบาลที่ให้บริการโดยเฉพาะ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีความเป็นห่วงและเน้นย้ำให้ทุกท่านปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
ทางด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสกลนคร กล่าวว่าวัตถุดิบกัญชาสดที่ได้รับมอบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ที่ได้ทำการเก็บไป 2 รอบแล้ว คือส่วนของ ใบกัญชาสด น้ำหนักที่รับไป ณ ตอนนี้ คือ 52.76 กิโลกรัมสด และเมื่อนำไปแปรรูปโดยการอบแห้ง ที่อุณหภูมิ 45-50 องศาเซลเซียส แล้วจะได้ใบกัญชาแห้งน้ำหนักเท่ากับ 11.428 กิโลกรัม ซึ่งปัจจุบันได้นำไปผลิตเป็นยาจำนวนทั้งสิ้น 3 ตำรับ ได้แก่ ยาศุขไสยาศน์ จำนวน 5,000 ซอง ยาแก้ลมแก้เส้น จำนวน 5,000 ซอง และยาทาริดสีดวงและโรคผิวหนัง จำนวน 5,000 ซอง เช่นกัน สำหรับคุณภาพของวัตถุดิบใบกัญชาสดที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร นั้น เมื่อพิจารณาจากลักษณะทางกายภาพ (ภายนอก) พบว่า ใบมีขนาดสมบูรณ์ ใบใหญ่ ก้านยาว และแข็งแรง สามารถนำไปแปรรูปต่อได้ง่ายและมีการกระจายให้แก่โรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โรงพยาบาลวานรนิวาส นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้กับนักการแพทย์แผนไทยเพื่อวางแผนในการใช้ยาในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในอนาคตอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น