กรมหม่อนไหมแนะเกษตรกรทำสาวหม่อนไหม
หรือตัดแต่งกิ่งหม่อนหรือต้นหม่อนให้ติดชิดพื้นดินทุกครั้งที่ตัดเพื่อเตรียมใบหม่อนปีละประมาณ
4 ครั้ง ในช่วงเวลา 1 ปี เพื่อควบคุมคุณภาพการผลิตใบหม่อนไหมได้ตลอดทั้งปี
และสามารถวางแผนการเลี้ยงไหมได้แน่นอนและมีประสิทธิภาพ
นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ อธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า ในการดูแลแปลงหม่อน
การตัดแต่งกิ่งหม่อนหรือต้นหม่อน หรือที่เรียกว่าการทำสาวหม่อนนั้น
เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นอาชีพ
การปลูกหม่อนต้องมีการเตรียมแปลงหม่อน หรือการทำสาวหม่อน หรือการตัดแต่งกิ่งหม่อนหรือต้นหม่อน
โดยต้องตัดให้ติดชิดพื้นดิน
เพื่อควบคุมการผลิตใบหม่อนให้เพียงพอและมีคุณภาพที่เหมาะสมกับการเลี้ยงไหมได้ตลอดทั้งปี
โดยทั่วไปเกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งหม่อนเพื่อเตรียมใบหม่อนในการเลี้ยงไหมแต่ละครั้ง
ปีละ 3-4 ครั้ง
ห่างกันประมาณ 2-3 เดือน
เพื่อให้ต้นหรือกิ่งหม่อนเจริญเติบโตสม่ำเสมอ ซึ่งการตัดแต่งกิ่งหม่อนทั้ง 4 ครั้ง มีการเรียงลำดับดังนี้คือ การตัดแต่งกิ่งครั้ง ที่ 1 เรียกว่าตัดต่ำ
โดยตัดหม่อนไว้ตอสูงจากพื้นดิน 30-50 เซนติเมตร
ปล่อยให้หม่อนเจริญเติบโตนาน 2.5-3 เดือน
การตัดแต่งกิ่งหม่อนครั้งที่ 2 เรียกว่าตัดกลาง
เพื่อนำใบไปเลี้ยงไหม จะตัดหม่อนสูงจากพื้นดิน 80-100
เซนติเมตร แล้วปล่อยให้หม่อนเจริญเติบโตนาน 2.5 เดือน
การตัดแต่งกิ่งหม่อนครั้งที่ 3 เรียกว่าตัดแขนงครั้งที่ 1 เพื่อนำใบไปเลี้ยงไหม ครั้งที่ 2 ทิ้งไว้อีก 2.5 เดือน และ การตัดแต่งกิ่งหม่อนครั้งที่ 4
เรียกว่าตัดแขนง ครั้งที่ 2
เพื่อนำใบหม่อนไปเลี้ยงไหมครั้งที่ 3
ทิ้งต้นหม่อนให้เจริญเติบโตต่อไปอีก 2.5 เดือน
จะตัดหม่อนอีกครั้งเพื่อนำใบไปเลี้ยงไหมครั้งที่ 4
เป็นการตัดแต่งหม่อนครบรอบปี แล้วจะไปตัดต่ำอีกครั้งในปีถัดไป
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการตัดต่ำในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-เมษายน
ซึ่งอยู่ในช่วงแล้งในเขตอาศัยน้ำฝน
อาจทำให้ผลผลิตใบหม่อนที่ได้จากการตัดแต่งแต่ละครั้งไม่สม่ำเสมอหรือเท่ากันทุกครั้ง
เนื่องจากวิธีการตัดแต่งที่แตกต่างกันปริมาณและความสม่ำเสมอของน้ำฝนที่หม่อนได้รับในแต่ช่วงของการตัดแต่ง
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำสาวหม่อนเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้
ทั้งนี้
การทำสาวหม่อนคือการตัดแต่งกิ่งหม่อนหรือต้นหม่อนให้ติดชิดพื้นดินทุกครั้งที่ตัดเพื่อเตรียมใบหม่อนปีละประมาณ
4 ครั้ง
และเพื่อให้ได้ปริมาณใบหม่อนใกล้เคียงกันทุกครั้ง
ได้เปอร์เซ็นต์ใบสูงเหมาะสำหรับการเลี้ยงไหมเป็นกิ่งทำให้กากเหลือน้อย
และได้กิ่งที่มีความยาวสม่ำเสมอ พอดีกับขนาดความกว้างของชั้นเลี้ยงไหม ทำให้สามารถวางแผนการเลี้ยงไหมได้แน่นอน
ส่วนของงานผลิตพันธุ์คือการผลิตไข่ไหมก็จะมีข้อผิดพลาดน้อยในการเตรียมไข่ไหมให้เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร
อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวต่อไปว่า
อย่างไรก็ตาม การทำสาวหม่อนจะต้องมีความพร้อมในด้านต่างๆ คือพันธุ์หม่อน
ควรเป็นพันธุ์ที่มีการตอบสนองต่อน้ำและปุ๋ยดี ปัจจุบันแนะนำให้ใช้พันธุ์สกลนคร
หรือพันธุ์บุรีรัมย์ 60 ส่วนการปลูก อาจใช้กิ่งปักชำอายุ 3-4 เดือน
แล้วย้ายปลูกในแปลงหรือใช้ท่อนพันธุ์อายุ 4-8 เดือน
ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร
ปลูกในแปลงที่เตรียมดินด้วยการไถพรวนให้มีหน้าดินลึกประมาณ 40 เซนติเมตร โดยตรงให้มีระยะปลูก 1.0 x 1.0 เมตร
จำนวน 10 แถว ติดกัน เว้นพื้นที่ระหว่างแปลงย่อยกว้าง 3.0 เมตร เพื่อให้รถ
และเครื่องจักรเข้าทำงานได้สะดวก ดังนั้นในพื้นที่ 1 ไร่ จะใช้กิ่งปักชำ
หรือท่อนพันธุ์ จำนวน 1,300 ต้น/ท่อน
เหลือพื้นที่ทางเดินระหว่างแปลง 300 ตารางเมตร การให้น้ำจะต้องมีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด
15 แรงม้า เพื่อใช้ปั้มน้ำสำหรับแปลงหม่อนนาด 4 ไร่ โดยจะให้น้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้งๆ ละ 30 นาทีโดยการวางท่อน้ำพีวีซี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4
นิ้ว แล้วลดขนาดลงมาเหลือ 2 นิ้ว และ 1
นิ้วตามลำดับ แต่ละหัวให้น้ำแบบสปริงเกอร์ห่างกัน 4 เมตร
ให้มีความสูงจากพื้น 2 เมตร การให้น้ำมักจะให้เพียง 4 เดือน ระหว่าง ธันวาคม – เมษายน
หรือในช่วงฤดูฝนที่ฝนทิ้งช่วง นานเกิน 1 เดือน
เนื่องจากมีการรักษาความชื้นของดินดี
สำหรับการรักษาความชื้นในดินและการกำจัดวัชพืช
จะมีการปราบวัชพืชด้วยการดายหรือใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช เพียงครั้งเดียวในเดือน
ตุลาคม – พฤศจิกายน
จากนั้นจะใช้ฟางคลุมอย่างหลวมๆ ให้มีความหนาประมาณ 30-50 เซนติเมตรในช่วงธันวาคม
เมื่อให้น้ำฟางจะยุบตัวลง แต่สามารถคุมวัชพืชได้ตลอดปี
และรักษาความชื้นของดินได้ตลอดตั้งแต่เดือน พฤษภาคม – พฤศจิกายน
นอกจากนั้นในแปลงที่ปฏิบัติเช่นนี้จะพบไส้เดือนที่เป็นประโยชน์ในการช่วยปรับโครงสร้างของดินมากกว่าในแปลงหม่อนที่ดูแลตามปกติ ส่วนการใส่ปุ๋ย
หลังการกำจัดวัชพืชต้องใส่ปุ๋ยคอก อัตรา 2,000 กิโลกรัม/ไร่
ส่วนปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 จะใส่ 3
ครั้ง หลังการตัดแต่งเพื่อเก็บผลผลิต 3 ครั้ง อัตราครั้งละ 25 กิโลกรัม แต่จะไม่ใส่ปุ๋ยเคมี เมื่อครั้งที่มีการใส่ปุ๋ยคอก สุดท้าย
การตัดแต่ง จะต้องตัดชิดดินทุกครั้งห่างกันประมาณ 2-3 เดือน
เพื่อให้ต้นหรือกิ่งหม่อนเจริญเติบโตสม่ำเสมอ ให้ผลผลิตใบ ประมาณ 1,040 กิโลกรัม/ไร่/ครั้ง หรือประมาณ 4,000 กิโลกรัม
ไร่/ปี สามารถเลี้ยงไหมได้ครั้งละ 2 กล่อง หรือปีละ 8 กล่อง นอกจากนี้ การตัดแต่งกิ่งหม่อนนี้ยังช่วยลดการระบาดของโรคและแมลงศัตรูหม่อนด้วย
การทำสาวหม่อนนั้นเกษตรกรจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่แปลงหม่อนอย่างสม่ำเสมอ
ต้นหม่อนจึงจะผลิตใบที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ สำหรับเกษตรกรที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สามารถติดต่อขอรายละเอียดและคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โทรศัพท์ 02–558–7924 – 6 ต่อ 404
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น