ว่าที่ร้อยตรีสมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์
เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า สภาเกษตรกรแห่งชาติได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
(สสส.) นำสู่ประเทศผู้ผลิตภาคเกษตรมุ่งเรื่องการผลิตอาหารปลอดภัย
การทำเกษตรอินทรีย์ โดยเริ่มตั้งแต่การจัดเก็บข้อมูลการเกษตร นำมาวิเคราะห์
จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาการผลิตอาหารปลอดภัยด้วยเครือข่ายของชุมชนเอง
เป้าหมายกระจายพื้นที่ 4 ภาคทั่วประเทศ
คลิปสัมภาษณ์ว่าที่ร้อยตรีสมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์ เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ
ซึ่งขณะนี้สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดได้จัดทำบันทึกข้อตกลงกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และพัทลุงไปแล้ว
และล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 ที่จังหวัดสุโขทัยได้จัดทำโครงการ “ขับเคลื่อนสุโขทัยเมืองเกษตรคุณธรรม”
เพื่อให้เกษตรกรจังหวัดสุโขทัยมีจิตสำนึกในการผลิตอาหารปลอดภัยในระบบการจัดการเกษตรเพื่อสุขภาวะชุมชน
นำมาซึ่งผู้ผลิตปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย และเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมชุมชนท้องถิ่น
เป้าหมายต่อไปคือจังหวัดลพบุรี
และเตรียมขยายพื้นที่เพิ่มเติมไปยังจังหวัดเชียงใหม่ กาฬสินธุ์
ตรัง และราชบุรี เพื่อขับเคลื่อนเรื่องของอาหารปลอดภัยจากผู้ผลิตส่งต่อยังผู้บริโภคด้วยองค์ความรู้ในการผลิต
การบริโภค ตลาดท้องถิ่น ให้เข้มแข็งพอจากนั้นจึงเชื่อมโยงไปยังตลาดนอกชุมชน
คาดหวังให้เกิดเกษตรกรรมยั่งยืนบนความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ในอนาคต
ด้าน นางสาวดวงพร เฮงบุณยพันธ์
ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
(สสส.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สสส.มีหน้าที่จุดประกาย กระตุ้น สานและเสริมพลัง
เมื่อร่วมมือกับสภาเกษตรกรจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่แล้วจะสามารถสร้างระบบเกษตรกรรมให้ดีขึ้นตอบสนองและสอดคล้องกับนโยบายจังหวัดและนโยบายของประเทศ
โดยเกษตรกรในพื้นที่ต้องเป็นเจ้าภาพหลักในการเปิดพื้นที่ให้ทุกคนเข้ามาร่วมพัฒนาเป็นพื้นที่ปฏิบัติการจริง
ภาคเกษตรต้องมีกลไกขับเคลื่อนระบบเกษตร สสส.ได้ร่วมสนับสนุนสร้างจังหวะก้าวให้เกษตรกรมีอาชีพที่ดีรายได้ดีสู่ประชาชนผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดี
ภายใต้การขับเคลื่อนนี้ สสส.จะสนับสนุนสภาเกษตรกรจังหวัดในด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยีและงบประมาณเพื่อทำให้ระบบเกษตรกรรมในระดับตำบลดีขึ้นตามแผนพัฒนาเกษตรกรรมตำบลของสภาเกษตรกร
อันนำสู่การสร้างรายได้และสร้างคุณภาพชีวิตต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น