นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
พร้อมด้วยนายอัชฌา สุวรรณิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาของบุตร-หลานสมาชิกสหกรณ์โคนม
ระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์ กับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมี รองศาสตราจารย์
ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ร่วมในการลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ณ ห้องประชุม 226 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์
กรุงเทพมหานคร ซึ่งโครงการร่วมมือทางการศึกษาเพื่อสานต่ออาชีพพระราชทาน เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่ทรงมีต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม
โดยกรมฯจะสนับสนุนทุนการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาให้กับบุตร – หลานสมาชิกสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม
ได้เข้าเรียนในสาขาวิชาด้านปศุสัตว์
หรือสาขาที่เกี่ยวข้องกับอาชีพเลี้ยงโคนมตลอดหลักสูตร เพื่อจะได้นำความรู้
เทคโนโลยี นวัตกรรมมาพัฒนาฟาร์มและการบริหารจัดการธุรกิจสหกรณ์โคนม
กลับมาประกอบอาชีพต่อในฟาร์มโคนมของครอบครัว
หรือกลับไปทำงานให้กับสหกรณ์โคนมที่ให้ทุนการศึกษา
เพื่อจะได้ช่วยพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคนมและธุรกิจของสหกรณ์โคนมให้มีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับบุตร–หลานของสมาชิกสหกรณ์โคนมที่มีความประสงค์ขอเข้ารับทุนการศึกษาต่อในสาขาวิชาด้านปศุสัตว์
หรือสาขาที่เกี่ยวข้องกับอาชีพการเลี้ยงโคนม กรมฯ
และสหกรณ์โคนมต้นสังกัดที่สมาชิกนั้นสังกัดอยู่ จะมอบทุนการศึกษาให้ตลอดหลักสูตร
โดยกำหนดไว้ 3 ปี คือปีการศึกษา 2563 – 2565 สำหรับคุณสมบัติของผู้ขอรับทุนจะต้องเป็นบุตร-หลานของสมาชิกสหกรณ์โคนมหรือบุตร-หลานสมาชิกสหกรณ์การเกษตรที่สมาชิกมีอาชีพเลี้ยงโคนม
ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายสามัญ
มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 5 ภาคเรียน ไม่ต่ำกว่า 3.00 มีความประพฤติดี มีความตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มพัฒนาบุคลากรสหกรณ์
สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ โทรศัพท์ 0 2669 4577 หรือศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 1-20 และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อผู้รับทุนจบการศึกษาแล้ว
จะต้องกลับไปทำงานในสหกรณ์โคนมที่ให้ทุนดังกล่าว ไม่น้อยกว่า 5 ปี
เพื่อจะได้นำความรู้และเทคโนโลยีกลับไปพัฒนาฟาร์มและสหกรณ์โคนมให้มีมาตรฐาน
สามารถผลิตน้ำนมให้มีคุณภาพ ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
รวมถึงมีส่วนช่วยพัฒนาธุรกิจสหกรณ์โคนมและสร้างความมั่นคงในอาชีพการเลี้ยงโคนมให้อยู่คู่กับคนไทยต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น