นายโอภาส
ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) คลี่คลายลง คาดการณ์ว่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้างงานจำนวนมาก
และบางส่วนอาจหันเข้าสู่การทำอาชีพในภาคการเกษตรมากขึ้น ซึ่งคนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการเกษตร
หรือมีพื้นที่ที่จำกัด อาจเริ่มต้นจากการทำเกษตรด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้
ควบคู่ไปกับการทำบัญชีครัวเรือน และบัญชีต้นทุนอาชีพ บันทึกรายรับ
รายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ มีการคิดวิเคราะห์ วางแผนให้รอบด้าน
เพื่อวางแผนการผลิตได้อย่างถูกต้องและมีรายได้ที่มั่นคง ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมที่จะเข้าไปให้คำแนะนำด้านการทำบัญชีให้กับเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจเริ่มต้นอาชีพทางการเกษตร
โดยมีสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ทุกจังหวัดและครูบัญชีทั่วประเทศเป็นเครือข่ายให้คำปรึกษาแนะนำ
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงในหลายๆ
ด้าน ประการแรกคือ ภาคธุรกิจหลายแห่งอาจปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีหรือนำเครื่องมือ
Artificial Intelligence (AI) มาใช้ทดแทนการใช้แรงงานมนุษย์มากขึ้นกว่าเดิม
ประการที่สอง รูปแบบของธุรกิจอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา เจ้าขององค์กรธุรกิจได้มีโอกาสทบทวนว่า งานส่วนใดมีความจำเป็นหรืองานส่วนใดที่ไม่มีความจำเป็น
ซึ่งจะต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ และอาจจำเป็นต้องปรับลดขนาดงานที่ไม่จำเป็นออกไป
ประการที่สาม จากสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัส โควิด-19 ครั้งนี้ ทำให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคต่างมองเห็นความเสี่ยงของอุปสงค์อุปทานของสินค้าหรือความต้องการของตลาดที่ไม่เหมือนเดิม
สินค้าบางประเภทขายดีในภาวะวิกฤต แต่บางประเภทขายได้น้อยลง ธุรกิจบางชนิดจึงต้องมีการปรับตัว
ดังนั้น ผู้ที่กลับมาประกอบอาชีพเกษตรกรรม จำเป็นที่จะต้องมีความละเอียดรอบคอบกว่าเดิม
ต้องลงมือทำด้วยตนเองและต้องรู้จักวางแผนการผลิตและการตลาด
ไม่ว่าจะทำการเกษตรขนาดใดก็ตาม
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ดำเนินการสนับสนุนองค์ความรู้ทางบัญชี
สู่เกษตรกร ให้ทำบัญชีได้ ใช้บัญชีเป็นในภาคครัวเรือนและภาคการเกษตรมาโดยตลอด เพราะถือเป็นกลไกสำคัญ
ที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้กับเกษตรกรได้อย่างมั่นคง สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ให้รู้จักความพอมี พอกิน พอใช้ คำนึงถึงหลักเหตุผลและการประมาณตนเอง อันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต สามารถปรับเปลี่ยนอาชีพให้เกิดความมั่นคง และเป็นโอกาสในการต่อยอดสู่การพัฒนา
ที่ยั่งยืน นำมาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและหลุดพ้นจากกับดักความยากจนได้ ซึ่งการทำบัญชีไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราขยันจด และทำให้เป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว
สู่เกษตรกร ให้ทำบัญชีได้ ใช้บัญชีเป็นในภาคครัวเรือนและภาคการเกษตรมาโดยตลอด เพราะถือเป็นกลไกสำคัญ
ที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้กับเกษตรกรได้อย่างมั่นคง สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ให้รู้จักความพอมี พอกิน พอใช้ คำนึงถึงหลักเหตุผลและการประมาณตนเอง อันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต สามารถปรับเปลี่ยนอาชีพให้เกิดความมั่นคง และเป็นโอกาสในการต่อยอดสู่การพัฒนา
ที่ยั่งยืน นำมาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและหลุดพ้นจากกับดักความยากจนได้ ซึ่งการทำบัญชีไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราขยันจด และทำให้เป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น