เกษตรกรจังหวัดเชียงราย
พลิกชีวิตจากทำเกษตรที่พึ่งพาสารเคมี มายึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำการเกษตรผสมผสานและทำนาอินทรีย์
ควบคู่กับการนำระบบบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือนและบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพมาใช้
ทำให้ทราบว่าสิ่งไหนจำเป็นหรือไม่จำเป็นในการทำการเกษตร รู้ต้นทุนที่แท้จริง
จนประสบความสำเร็จและยังถ่ายทอดสู่ชุมชนจนได้รับคัดเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่น
สาขาบัญชีฟาร์ม รองชนะเลิศอันดับ 2 ระดับประเทศ
ประจำปี 2563 จากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
นายถวิล
สุริยะ เกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม รองชนะเลิศอันดับ
2
ระดับประเทศ ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 9 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ปัจจุบันมีอาชีพหลักคือการทำนาและทำการเกษตรแบบผสมผสาน โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบนพื้นที่
34 ไร่
แบ่งเป็นปลูกข้าวอินทรีย์ 29 ไร่ ทำการเกษตรผสมผสาน 2 ไร่ ทำโรงผลิตปุ๋ยอินทรีย์ 2 ไร่ และขุดบ่อเลี้ยงปลา
1 ไร่ ก่อนหน้านี้ นายถวิล เคยทำนาและทำการเกษตรแบบพึ่งพาปุ๋ยเคมีและสารเคมีมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า
3 ปี แต่ประสบปัญหาขาดทุนมาโดยตลอด จึงมาคิดทบทวนและตั้งปณิธานที่จะหยุดใช้สารเคมีเพื่อเอาชนะความจน
ด้วยความคิดที่ว่า ทุกสรรพสิ่ง ถูกสร้างให้อยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล และวิถีเกษตรกรรมที่ดี
จะต้องไม่ฆ่า ไม่ทำลาย ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน นั่นหมายถึงการลด ละ
เลิกใช้สารเคมีในการทำการเกษตร จึงศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำการเกษตรแบบไม่พึ่งพาสารเคมี
คำตอบที่ได้คือ การทำการเกษตรตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จึงสมัครเข้ารับการอบรมเพื่อรับองค์ความรู้ด้านการเกษตรในทุกมิติทั้งจากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และปราชญ์เกษตรผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น เข้าร่วมอบรมเป็นศิษย์ของโรงเรียนชาวนาป่าสักน้อย
อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นศิษย์ของโรงเรียนชาวนาเกษตรยั่งยืน ต.ศรีเมืองชุม
อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทำให้มีโอกาสได้พบกับปราชญ์เกษตรที่มีชื่อเสียงหลายท่าน
ได้ศึกษาเรียนรู้จนแตกฉาน จนสามารถนำความรู้ไปต่อยอดในแปลงนาของตนและลงมือปฏิบัติอย่างได้ผลและประสบความสำเร็จในการทำนาข้าวอินทรีย์แบบ
100% งดเว้นการใช้สารเคมีทุกชนิดในแปลง รวมถึงยังได้ขอคำแนะนำในการทำบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพจากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์เชียงราย
จนกระทั่งนำไปสู่การปฏิบัติจริง ประสบความสำเร็จและขยายผลไปสู่ชุมชนอีกด้วย
สำหรับผลงานด้านบัญชีฟาร์ม นายถวิล
เป็นครูบัญชีอาสามาตั้งแต่ปี 2550 โดยได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน
และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปอย่างต่อเนื่อง เช่น ในปี 2560 ให้ความรู้ด้านบัญชีแก่เกษตรกร 988
ราย สามารถทำบัญชีครัวเรือนได้ 70 ราย ปี 2561 ให้ความรู้เกษตรกร 1,164 ราย
สามารถทำบัญชีครัวเรือนได้ 106 ราย และในปี 2562 ให้ความรู้เกษตรกรจำนวน 1,380 ราย สามารถทำบัญชีครัวเรือนได้ 150
ราย เป็นต้น โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ เริ่มต้นจากเกษตรกรในกลุ่มทำนาข้าวอินทรีย์ที่ตนเองเป็นแกนนำอยู่เป็นหลัก
และต่อยอดไปสู่เกษตรกรผู้สนใจอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังเป็นตัวแทนครูบัญชีอาสาของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่
7 ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสร้างเกษตรกรสมัยใหม่ด้วยบัญชี
สู่วิถีธุรกิจ ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ อีกด้วย
ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมอย่างไม่หยุดยั้งของนายถวิล
ทำให้ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งงาม
และเป็นปราชญ์เกษตรต้นแบบในการทำนาข้าวอินทรีย์ 100% ตลอดจนได้รับการยอมรับให้เป็นปราชญ์ชุมชนด้านปราชญ์เศรษฐกิจพอเพียง
ที่ให้ความสำคัญในเรื่อง การบันทึกบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือนและบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ
ตลอดจนรู้จักแบ่งปันถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ชุมชนและผู้สนใจมาอย่างต่อเนื่อง นายถวิล
จึงได้รับคัดเลือกจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ให้เป็นเกษตรกรดีเด่นสาขาบัญชีฟาร์ม
รองชนะเลิศอันดับ 2 ระดับประเทศ ประจำปี 2563
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น