กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมส่งเสริมการเกษตร และ กระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญด้านบริหารจัดการ
โดยเฉพาะผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19
ซึ่งการขนส่งได้รับผลกระทบทำให้ไม่สามารถกระจายสินค้าได้
หรืออาจะทำให้การกระจายสินค้าชะลอตัว โดยเฉพาะผลผลิตผลไม้ที่ออกสู่ตลาดมาก ช่วงนี้ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง
ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง และองุ่น รวมถึงไม้ผลอื่นๆ ที่เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ
เพื่อสามารถกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตไปยังผู้บริโภคทั้งภายในและนอกประเทศ
หรือ ตลาดปลายทาง ให้โดยเร็ว ต้องอาศัยกลไกการทำงานของระบบโลจิสติกส์
การขนส่งทางอากาศ ทางบก และทางเรือ รวมถึงการซื้อขายผ่านทางออนไลน์ เข้ามาสนับสนุน
สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลง มีทั้ง หน่วยงานภาคราชการ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร
กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ด้านหน่วยงานภาคเอกชน
เช่น สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย สมาคมขนส่ง สินค้าและโลจิสติกส์ไทย สมาคมการค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน
สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย สมาคมผู้ประกอบการผักผลไม้ไทย บริษัท ไทยฟินเทค
จํากัด ร่วมบูรณาการผลักดันการดําเนินงานสำเร็จ ลดผลกระทบที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการต่างๆ รวมถึงผลผลิตกับสินค้าเกษตรอีกด้วย
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
กล่าวว่า สำหรับการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงนี้ จะทำให้สินค้าเกษตรที่ออกสู่ตลาด หรือได้รับผลกระทบจากการขนส่งขณะนี้
ลดภาระที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรได้
ซึ่งทุกหน่วยงานที่ร่วม MOU จะร่วมบูรณาการในทุกมิติ ทั้งด้านการขนส่งทางอากาศ
ทางบก และทางเรือ ให้สามารถ ดำเนินการกระจายผลผลิตไปได้ 77
จังหวัด และนอกประเทศได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ แลถะร่วมบูรณาการเชื่อมต่อระบบการจัดส่ง
(Delivery) ที่มีอยู่ในประเทศ และใช้แพลตฟอร์ม
หน่วยงานภาคเอกชนที่มีอยู่
บริหารจัดการให้เกิดประโยชน์ทางด้านระบบการขนส่งเพื่อระบายสินค้าได้อย่าง รวดเร็ว
และสร้างโอกาสที่จะขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องคำนวณอัตราค่าระวาง
(Freight Chargeหรือค่าใช้จ่ายอื่น ด้วยความเป็นธรรม
พร้อมให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และ
อำนวยความสะดวกอย่างเต็มกำลัง
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า
นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร พลิกวิกฤตเป็นโอกาส จัดทำโครงการสนับสนุนสินค้าเกษตรไทยสู้ภัย
COVID-19 ผุด Campaign “ซื้อสินค้าเกษตรไทย
เกษตรกรอยู่ได้ ประเทศไทยอยู่รอด” แก้ไขปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรค
COVID-19 ที่มีต่อสินค้าเกษตรไทยทั้งไม้ผล พืชผัก ไม้ดอก และอื่นๆ
ที่ส่งออกไม่ได้ช่วงนี้ พร้อมเชิญชวนหน่วยงาน บริษัท ห้าง/ร้านต่าง ๆ
และประชาชนร่วมอุดหนุนสินค้าเกษตรคุณภาพดีจากเกษตรกรโดยตรง
หรือส่งมอบเป็นขวัญกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์
และครอบครัวที่อยู่ห่างไกลแทนความรักห่วงใย
ซึ่งขณะนี้
สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตรสามารถสรุปการช่วยเหลือเกษตรกรในการจำหน่วยสินค้าเกษตรช่วงสถานการณ์
COVID 19 ณ วันที่ 9 เมษายน 2563 โดยแบ่งเป็นซื้อรับประทาน จำนวน 5,502 กก. มูลค่า 160,445 บาท และซื้อบริจาค 6,450 กก มูลค่า 133,050 บาท รวมสามารถช่วยเกษตรกรจำหน่าย 2,119,408 กก.
มูลค่า 78,182,295 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น