28 เมษายน 2563 นางมัลลิกา
บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ได้ให้กรมการค้าภายในติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร อย่างใกล้ชิด ล่าสุดข้อมูลประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจากจำนวนเกษตรกรที่มีสิทธิ์ทั้งหมด
4.31 ล้านราย ได้ประโยชน์จากโครงการโดยโครงการประกันรายได้เกษตรกร สำหรับชาวนา
ได้โอนเงินส่วนต่าง แล้ว 994,930 ราย จำนวนเงิน 19,387.38 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ
92.58 ของงบประมาณทั้งหมด สำหรับประกันรายได้ข้าวงวดต่อไปจะมีการประชุม
คณะอนุกรรมการกำหนด เกณฑ์กลางอ้างอิงรอบล่าสุดในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า
และสถานการณ์ราคาข้าวขณะนี้ประเทศไทยกำลังได้เปรียบคู่แข่งค่าข้าวไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม
อินเดีย กัมพูชา เพราะแต่ละประเทศมีข้อจำกัดในการส่งออกข้าว
ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสรับคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อมากขึ้น
ขณะที่เกิดภาวะภัยแล้งน้ำในเขื่อนมีน้อยผู้ประกอบการทั้งโรงสีและผู้ส่งออกเกิดการแย่งซื้อจึงดันราคาข้าวเปลือกและข้าวสารขึ้น ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าราคาประกันรายได้ของรัฐบาลทุกชนิด
ดังนั้น ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563
เป็นต้นมารัฐบาลจะยังไม่มีภาระเรื่องเงินชดเชยส่วนต่างและเกษตรกรสามารถจำหน่ายข้าวเปลือกได้สูงกว่า
โดยเฉพาะราคาข้าวเปลือกจ้าวปัจจุบันอยู่ที่ตันละ 10,200 ถึง 10,600
บาทในขณะที่ราคาข้าวสารขาว 5% อยู่ที่ตันละ 16,200 ถึง 16,300 บาท
ซึ่งเป็นราคาที่สูงหากเปรียบเทียบกับราคาเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง ทำให้การเกษตรที่ปลูกนาปรังมากกว่า 3.6
แสนครัวเรือนซึ่ง ทยอยเก็บเกี่ยวจะได้ราคาดี
ส่วนการช่วยเหลือชาวนาด้าน
ต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนั้นข้อมูลสรุป เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
แจ้งผ่านกรมการค้าภายในว่าได้จ่ายเงินให้เกษตรกรแล้วจำนวน 4,463,526 ราย
วงเงิน 26,087 ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ 95.1 ของเป้าหมายวงเงินงบประมาณ
ส่วนด้านการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว
ทางธนาคารเพื่อการเกษตรฯ ได้จ่ายเงินให้เกษตรกรแล้วจำนวน 4,125,026 รายวงเงิน
22,724.5 ล้านบาทคิดเป็น 88.1%
ของเป้าหมายวงเงินงบประมาณ
ที่รัฐบาลช่วยเหลือชาวนา
"สำหรับ มาตรการคู่ขนาน คือ
โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร รัฐบาล
จ่ายเงินกู้จำนวน 141 รายโดยกู้แล้ว 7,466.3 ล้านบาทคิดเป็นข้าวเปลือก 626,876.9 ตัน
ส่วนโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2562 / 2563
มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 207,303 ราย ได้กู้แล้วกว่า 13,729 ล้านบาท คิดเป็นข้าวเปลือก 1,316,083 ตัน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น