27 เมษายน 2563 รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ทีมงานประสานกับทีมงานคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เพื่อถอนวาระครม.ซึ่งนายสมคิดสั่งบรรจุตั้งแต่ต้นโดยนายจุรินทร์รับรายงานจากหลายฝ่ายที่กังวลเกี่ยวกับ CPTPP ( comprehensive and progressive agreement for transpacific partnership) ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก
ซึ่งการบรรจุวาระครม.เป็นการผลักดันจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจโดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธาน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นเลขาฯ โดยนายสมคิดเป็นผู้ประสานงานและกำชับกระทรวงพาณิชย์ให้นำเสนอวาระเข้าครม.สัปดาห์นี้และเป็นการขอความเห็นชอบให้ไทยเข้าไปเจรจาเท่านั้น ไม่ใช่ให้ไทยเข้าไปเป็นสมาชิกที่มีผลผูกพัน หากผลการเจรจา แสดงให้เห็นว่าได้ไม่คุ้มเสีย ไทยก็ยังไม่ต้องเข้าเป็นสมาชิกได้
แต่ทางนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กระทรวงพาณิชย์ เห็นว่ามันยังมีข้อกังวลบางประเด็นของซีพีทีพีพี อาทิ การคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ การเปิดตลาดให้กับสินค้าใช้แล้วที่นำมาปรับปรุงสภาพเป็นของใหม่และการจัดซื้อจัดจ้างโดยภาครัฐ และข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดโควิดในปัจจุบันอาจจะไม่เหมาะสมกับเวลาแม้ว่าจะไม่ใช่การเข้าไปเป็นสมาชิกก็ตาม รายงานข่าวระบุว่าเรื่องนี้เป็นความหนักใจของนายจุรินทร์อย่างยิ่งเพราะในข้อเท็จจริงก็ไม่อยากขัดใจพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจของนายสมคิดที่ให้เหตุผลเกี่ยวกับการบรรจุวาระนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
และแม้ว่าจะอธิบายว่าไทยไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกที่มีข้อผูกพันแต่ภาคประชาสังคมก็ไม่เข้าใจและโดยเฉพาะภาคประชาสังคมเห็นว่าการเข้าร่วมซีพีทีพีอาจส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข ความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกร การเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เพราะปลูกต่อ การผูกขาดเมล็ดพันธุ์และกลไกระงับข้อพิพาทระหว่างนักลงทุนกับรัฐที่อาจจะเกิดผลกระทบต่อนโยบายปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น